กองทัพเรือปล่อยเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ลำใหม่ เสริมความปลอดภัยการเดินเรือในน่านน้ำไทย
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ณ บริเวณตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เป็นประธานในพิธีปล่อยเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ หมายเลขเรือ 822 ลงน้ำอย่างเป็นทางการ โดยมี พลเรือตรีหญิง ดร. ทันตแพทย์หญิง จีระวัฒน์ กฤษณพันธ์ ว่องวิทย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ เป็นสุภาพสตรีผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือลงน้ำตามธรรมเนียมอันดีงามของกองทัพเรือ
พิธีดังกล่าวเริ่มต้นด้วยการประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นประธานในพิธีได้ประกอบพิธีเจิม ปิดทอง คล้องพวงมาลัย และประพรมน้ำพระพุทธมนต์บนแผ่นป้ายชื่อเรือ ก่อนที่เรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ลำใหม่นี้จะถูกปล่อยลงสู่ผืนน้ำ นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนากองทัพเรือไทย
โครงการจัดหาเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ลำนี้ เป็นการจัดหาเรือจำนวน 1 ลำ เพื่อเข้าประจำการทดแทนเรือหลวงสุริยะ ซึ่งได้ปฏิบัติภารกิจรับใช้ชาติมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี และกำลังจะปลดระวางประจำการ การจัดหาเรือลำใหม่นี้ถือเป็นการเสริมสร้างศักยภาพด้านอุทกศาสตร์และเครื่องหมายช่วยการเดินเรือของกองทัพเรือให้ทันสมัยและเพียงพอต่อการปฏิบัติภารกิจในปัจจุบัน
สำหรับภารกิจหลักและภารกิจสำคัญของเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ลำใหม่นี้คือ การสำรวจและซ่อมบำรุงเครื่องหมายช่วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย ซึ่งประกอบด้วย ทุ่นและกระโจมไฟต่างๆ ที่ถูกติดตั้งไว้ในพื้นที่ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ หรือบริเวณสำคัญ เช่น ทางเข้าร่องน้ำ และจุดยุทธศาสตร์ทางทะเล การดูแลรักษาเครื่องหมายเหล่านี้ให้มีความถูกต้องและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ เป็นการสร้างสัญลักษณ์นำทางที่สำคัญยิ่ง เพื่อให้ชาวเรือทั้งของไทยและต่างชาติ สามารถเดินเรือได้อย่างปลอดภัย และเป็นไปตามมาตรฐานสากลที่กำหนดไว้
นอกจากภารกิจหลักด้านอุทกศาสตร์แล้ว เรือลำนี้ยังมีขีดความสามารถในการสนับสนุนภารกิจด้านอื่นๆ ของกองทัพเรือ อาทิ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลในกรณีฉุกเฉิน การส่งกำลังบำรุงให้กับหน่วยงานต่างๆ ของกองทัพเรือที่ประจำการบริเวณชายฝั่งทะเลหรือในทะเล รวมถึงการสนับสนุนกิจอื่นๆ ตามที่ได้รับการร้องขอ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอเนกประสงค์ของเรือลำใหม่นี้
ในด้านคุณลักษณะเฉพาะ เรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ หมายเลข 822 มีความยาวตลอดลำ 60 เมตร ความกว้าง 13.3 เมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดต่อเนื่องได้ 13.1 นอต มีกำลังพลประจำเรือ 67 นาย และมีระยะปฏิบัติการไกลถึง 2,400 ไมล์ทะเล ที่สำคัญ เรือลำนี้ยังติดตั้งระบบสนับสนุนการปฏิบัติงาน เช่น เครนประจำที่สำหรับยกทุ่น ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการสำรวจและซ่อมบำรุงเครื่องหมายช่วยเดินเรือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ลำนี้ จัดสร้างขึ้นโดยบริษัทเอกชนในประเทศ ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมต่อเรือภายในประเทศ โดยใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างกว่า 1 ปี ด้วยวงเงินงบประมาณ 885 ล้านบาท การที่กองทัพเรือเลือกใช้บริการของบริษัทเอกชนไทยในการจัดสร้างเรือ ถือเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมภายในประเทศตามนโยบายของรัฐบาล
การเข้าประจำการของเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ลำใหม่ หมายเลข 822 นี้ จะช่วยยกระดับขีดความสามารถของกองทัพเรือในการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินเรือในน่านน้ำไทย ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการคมนาคมขนส่งทางทะเล เศรษฐกิจ และความมั่นคงของชาติ