สกัดจับชายไทยคาด่าน! ขนกระสุนปืนเกือบ 3 พันนัด-ลูกระเบิด M79 สารภาพเตรียมส่งกองกำลังกะเหรี่ยงชายแดนตาก

ตาก – เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด และหน่วยงานความมั่นคง สกัดจับชายไทยอายุ 39 ปี ขณะขับรถยนต์ผ่านจุดตรวจ พบของกลางเป็นเครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวนมากเกือบ 3,000 นัด พร้อมลูกระเบิด M79 อีก 3 นัด ผู้ต้องหาสารภาพรับจ้างขนเพื่อนำไปส่งให้กับกองกำลังชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งกำลังปะทะกับทหารเมียนมาอยู่ในขณะนี้

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 27 เมษายน 2568 ที่บริเวณจุดตรวจความมั่นคงบนถนนสมัครสรรพการ ตำบลแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ได้สังเกตเห็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ขับเข้ามายังจุดตรวจ โดยมีท่าทีของคนขับที่แสดงอาการพิรุธอย่างชัดเจน

ด้วยความไม่ไว้วางใจ เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณให้รถยนต์คันดังกล่าวหยุดเพื่อขอทำการตรวจค้น ซึ่งผลการตรวจค้นภายในกระเป๋าที่วางอยู่บริเวณด้านหน้ารถ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตกใจเมื่อพบของกลางจำนวนมากเป็นเครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. ซึ่งเป็นกระสุนที่ใช้สำหรับปืนเล็กยาว มีจำนวนถึง 2,869 นัด บรรจุอยู่ในกล่องเหล็กสีเขียวอย่างมิดชิดจำนวน 3 กล่อง นอกจากนี้ ยังพบลูกระเบิดชนิดยิงจากเครื่องยิงลูกระเบิด M79 ซึ่งเป็นอาวุธสงครามร้ายแรงอีกจำนวน 3 นัดซุกซ่อนอยู่ด้วย

ทันทีที่พบของกลาง เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคนขับรถยนต์ไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายรุ่ง อายุ 39 ปี พร้อมนำตัวไปสอบสวนขยายผล

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายรุ่งได้ให้การรับสารภาพว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของที่ตนได้รับมาจากชายคนหนึ่งบริเวณบ้านหัวฝาย ตำบลพระธาตุผาแดง อำเภอแม่สอด โดยได้รับว่าจ้างให้ขนเครื่องกระสุนปืนและลูกระเบิดทั้งหมดนี้ เพื่อนำไปส่งให้กับฝ่ายกองกำลังชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงที่กำลังสู้รบกับทหารเมียนมาอยู่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา โดยมีปลายทางที่จะนำของไปส่งคือบริเวณบ้านเปิงเคลิ่ง ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก แต่ยังไม่ทันที่จะไปถึงจุดนัดหมายก็มาถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับกุมตัวไว้ได้เสียก่อน

การจับกุมครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการลักลอบขนอาวุธและยุทโธปกรณ์สงครามผ่านพื้นที่ชายแดนไทย เพื่อสนับสนุนกองกำลังที่กำลังสู้รบในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่หน่วยงานความมั่นคงของไทยเฝ้าระวังและป้องกันอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้กระทบต่อความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศ

เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม เพื่อติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบขนอาวุธสงครามครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *