ทิมพู, ภูฏาน – เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ (State Visit) ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน โดยในระหว่างการเสด็จฯ เยือน ได้ทรงเข้าร่วมและทอดพระเนตรกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจหลากหลาย

ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ได้เสด็จพระราชดำเนินจากโรงแรมที่ประทับเพมาโกะ กรุงทิมพู ไปยังพระราชวังลิงคานา (Lingkana Palace Ground) พื้นที่ประวัติศาสตร์สำคัญของภูฏาน

ณ บริเวณพระราชวังลิงคานา ทั้งสองพระองค์ได้ทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมอันงดงามของภูฏาน อาทิ การแสดงศิลปะการยิงธนู ซึ่งเป็นกีฬาประจำชาติที่ชาวภูฏานให้ความสำคัญและสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ยังมีการแสดงกีฬาพื้นบ้านอื่น ๆ และการจัดแสดงงานหัตถกรรมผ้าและสิ่งทอ ซึ่งสะท้อนถึงภูมิปัญญาและเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของราชอาณาจักรภูฏาน

สิ่งที่สร้างความประทับใจอย่างยิ่งคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ได้ทรงร่วมสัมผัสและทดลองกีฬายิงธนูร่วมกับชาวภูฏาน นับเป็นพระราชอิริยาบถที่แสดงถึงความเป็นกันเองและความสนพระราชหฤทัยในวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งสร้างความปลาบปลื้มแก่ผู้ที่ได้ร่วมเข้าเฝ้าฯ และพสกนิกรชาวภูฏานเป็นอย่างยิ่ง

ต่อจากนั้น ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนตลาดกลางประจำกรุงทิมพู (Kaja Throm) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าและแหล่งรวมพืชผลทางการเกษตรที่สำคัญของเมือง

ณ ตลาดแห่งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับโครงการอาสาสมัครเดซุง (Desuup) ซึ่งเป็นโครงการที่ส่งเสริมการทำงานเพื่อสังคมและช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ต่างๆ โดยมีสมาชิกอาสาสมัครเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ทั้งสองพระองค์ยังได้ทอดพระเนตรนิทรรศการของโครงการนี้ และเดินเยี่ยมชมร้านค้าจำหน่ายพืชผลทางการเกษตรนานาชนิด

การเสด็จพระราชดำเนินเยือนภูฏานในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรภูฏาน ซึ่งมีมายาวนานและเต็มไปด้วยความเข้าใจอันดีต่อกัน ทั้งสองพระองค์จะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในภูฏานต่อเนื่อง และมีกำหนดจะเสด็จพระราชดำเนินกลับในวันที่ 28 เมษายนนี้.