ราคาทองคำไทยดิ่งแรงเช้านี้! ปรับ 6 ครั้ง ร่วง 850 บาท (15 พ.ค. 68)
ราคาทองคำไทยเช้าวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ประสบภาวะผันผวนอย่างหนัก โดยมีการปรับราคาถึง 6 ครั้งภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ส่งผลให้ราคาทองคำรวมร่วงลงไปถึง 850 บาทต่อบาททองคำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (15 พ.ค. 2568) สมาคมค้าทองคำ ได้ประกาศราคาทองคำเปิดตลาดโดยปรับลดลงทันที 600 บาท จากนั้นภายในเวลาเพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมง มีการทยอยปรับลดราคาลงอีกถึง 5 ครั้ง ทำให้ราคาทองคำไทยรวมลดลงแล้วถึง 850 บาทต่อบาททองคำ เมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวานนี้
ณ เวลา 09.49 น. ซึ่งเป็นการประกาศราคาครั้งที่ 6 ของวันนี้ ราคาทองคำแท่ง 96.5% รับซื้ออยู่ที่บาทละ 49,950 บาท และขายออกที่บาทละ 50,050 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้ออยู่ที่บาทละ 49,057.76 บาท และขายออกที่บาทละ 51,850 บาท
สาเหตุหลักของการร่วงลงแรงในครั้งนี้ มาจากราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ บริษัท ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนทองคำผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยบทวิเคราะห์ว่า เมื่อวานนี้ (14 พ.ค.) ราคาทองคำโลกได้หลุดฐานสำคัญที่ระดับ 3,205 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทำให้เกิดแรงเทขายอย่างตื่นตระหนก (Panic Sell) ส่งผลให้ราคาร่วงลงไปแตะระดับ 3,170 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์อย่างรวดเร็ว
สำหรับวันนี้ (15 พ.ค.) ตลาดยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย รวมถึงการนัดหมายเจรจาที่ประเทศตุรกี ซึ่งมีรายงานว่าผู้นำอย่างนายวลาดิเมียร์ ปูติน และนายโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะไม่ได้เข้าร่วมการเจรจาด้วยตนเอง หากเป็นเช่นนั้นจริง อาจส่งผลให้ความสำเร็จในการเจรจาเป็นไปได้ยากขึ้น ท่ามกลางแรงกดดันจากการขู่คว่ำบาตรรัสเซียจากประเทศสำคัญในยุโรป
ในด้านเทคนิค ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน ประเมินว่า ราคาทองคำโลกลุ้นการฟื้นตัว (Rebound) เพื่อทดสอบแนวต้านบริเวณที่เคยเป็นจุดหลุดลงมา หากไม่สามารถทะลุกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 3,240 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้ ราคายังมีโอกาสปรับตัวลงต่อตาม Sentiment ของตลาด
คำแนะนำสำหรับนักลงทุน: เพื่อความปลอดภัย ควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและเคร่งครัดการตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) จากความผันผวนที่สูง
สำหรับราคาทองคำไทย ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน ยังคงแนะนำให้นักลงทุนทยอยเข้าสะสมทองคำตามแผนแนวรับสำคัญแบบพีระมิดฐานกว้าง โดยประเมินแนวต้านของราคาทองคำไทยไว้ที่ระดับ 50,600 บาท, 50,800 บาท, และ 51,100 บาท ส่วนแนวรับประเมินไว้ที่ระดับ 50,100 บาท, 49,750 บาท, และ 49,050 บาท