มาริษ รมว.ต่างประเทศไทย ร่วมวง BRICS ที่บราซิล ครั้งแรก ย้ำพร้อมขยายความร่วมมือ-ดัน ‘มวยไทย’ ซอฟต์พาวเวอร์

รีโอเดจาเนโร, บราซิล – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วน (BRICS Partnership Session) ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ตามคำเชิญของนายเมารู วิเอรา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศบราซิล

นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ตนรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสพบหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศบราซิล ซึ่งเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งสำคัญนี้ โดยชี้ว่ากลุ่ม BRICS เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพและพลวัตสูง และมั่นใจว่าการประชุมครั้งนี้จะประสบความสำเร็จด้วยดี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของกลุ่ม BRICS ต่อประเทศไทย โดยระบุว่า ในกลุ่ม BRICS มีสมาชิกที่เป็นตลาดนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่สุดของไทยถึง 3 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย และรัสเซีย นอกจากนี้ ยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในด้านอื่นๆ อีกด้วย

ในการเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสแรกที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของ BRICS ซึ่งนายมาริษ มองว่าเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะได้แสดงบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา

นอกจากประเด็นความร่วมมือในกรอบ BRICS แล้ว นายมาริษ ยังได้หารือทวิภาคีกับบราซิล โดยระบุว่าบราซิลเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญ และไทยพร้อมที่จะขยายความร่วมมือกับบราซิลในหลากหลายด้าน เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคงทางอาหาร สาธารณสุข การเกษตร ไปจนถึงพลังงานสีเขียว

ในส่วนของการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางไปเปิดกิจกรรม MUAYTHAI MASTER CLASS ที่นครรีโอเดจาเนโร ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย สถานทูต ณ กรุงบราซิเลีย และสมาพันธ์มวยไทยบราซิล

กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อสอนทักษะมวยไทยให้แก่ผู้สนใจ โดยมีนักมวยไทยที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักเข้าร่วมเป็นผู้สอน และได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมกว่า 300 คน

นายมาริษ แสดงความมั่นใจว่า มวยไทยเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญของไทยที่ได้รับความนิยมในระดับโลก สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง และยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก โดยภาครัฐพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

รัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวทิ้งท้ายด้วยความภาคภูมิใจที่ได้เห็นความรักและความสนใจในศิลปะการต่อสู้และวัฒนธรรมไทยในต่างแดน แม้จะอยู่ห่างไกลจากประเทศไทยเกือบครึ่งโลก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *