กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผลการหารือกับ นายอู๋ จื้ออู่ อัครราชทูต และน.ส.จาง เซียวเซียว อุปทูตด้านเศรษฐกิจและการค้า ประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา การหารือครั้งนี้มีขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและอำนวยความสะดวกการส่งออกทุเรียนไทยสู่ตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่ง

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ในการหารือได้มีการนำทุเรียนหมอนทองคุณภาพเยี่ยม ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในจีน มาให้ฝ่ายจีนได้ลิ้มลอง ซึ่งได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมากถึงรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และแสดงความยินดีที่ทุเรียนไทยได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน พร้อมทั้งแสดงความปรารถนาที่จะเห็นยอดการนำเข้าทุเรียนไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการนำเข้าเป็นไปอย่างราบรื่นตลอดฤดูกาลที่ทุเรียนออกผลผลิตมาก

นายพิชัย กล่าวต่อว่า ตนและอัครราชทูตจีนได้พบหารือและแลกเปลี่ยนสถานการณ์การส่งออกทุเรียนกันมาโดยตลอด เพื่อให้มั่นใจว่าการส่งออกในปีนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่นและสามารถกระจายสินค้าเข้าสู่จีนได้อย่างรวดเร็ว การหารือล่าสุดนี้ได้เน้นย้ำถึงคุณภาพมาตรฐานของทุเรียนไทยว่าเป็นผลไม้คุณภาพสูง รสชาติชั้นเยี่ยม และได้ขอให้ทางการจีนพิจารณาผ่อนปรนมาตรการตรวจสอบสารปนเปื้อน รวมถึงเพิ่มความรวดเร็วในการตรวจปล่อยสินค้าที่ด่าน นำเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัยมาใช้มากขึ้น และเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่เพื่อรองรับปริมาณทุเรียนที่จะส่งออกในช่วงฤดูผลไม้ปริมาณมาก

ทางด้านอัครราชทูตจีน ได้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ โดยเสนอแนะให้ฝ่ายไทยพิจารณาจัดเกรดและควบคุมคุณภาพของล้ง (โรงคัดบรรจุ) ทุเรียนในพื้นที่ต่างๆ อย่างเข้มงวด หากล้งใดสามารถรักษามาตรฐานและคุณภาพสินค้าได้สูงอย่างต่อเนื่อง ไม่มีประวัติการตรวจพบสารปนเปื้อน อาจได้รับการพิจารณาใช้วิธีการสุ่มตรวจหรือลดความเข้มงวดในการตรวจสอบลง ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการส่งออกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดย รมว.พาณิชย์ จะได้ประสานคำแนะนำนี้ไปยังกรมวิชาการเกษตรเพื่อพิจารณาต่อไป

รมว.พาณิชย์ ได้กล่าวถึงความสำเร็จในการส่งออกทุเรียนไทยในปี 2567 ซึ่งมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 3,700 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 833,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 97.4 ของการส่งออกทุเรียนทั้งหมดของประเทศไทย เพื่อรักษาและต่อยอดความสำเร็จนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เตรียมแคมเปญส่งเสริมภาพลักษณ์และยอดขายทุเรียนไทยในตลาดจีน ด้วย 4 กลยุทธ์ครบวงจร มุ่งสร้างความเชื่อมั่น ขยายช่องทาง และกระตุ้นการบริโภค ดังนี้

4 กลยุทธ์ดันยอดส่งออกทุเรียนไทยในจีน

• 1. สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพทุเรียนไทย: สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทำงานร่วมกับพาณิชย์จังหวัด เน้นจุดเด่นด้านรสชาติ คุณภาพ และความแตกต่างจากคู่แข่ง พร้อมประสานงานกับด่านศุลกากรและผู้นำเข้า อำนวยความสะดวกด้านการค้าผ่านการอัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์
• 2. ขยายตลาดออนไลน์ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่: ร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ (KOLs) และไลฟ์สตรีมเมอร์บนแพลตฟอร์มจีนยอดนิยม เช่น Douyin (TikTok), Weibo, Xiaohongshu สร้างคอนเทนต์โปรโมตทุเรียนไทยให้เข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ นอกจากนี้ ยังจับมือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ เช่น Tmall และ JD.com เปิดตัวแคมเปญ “Thai Fruit Golden Month Online” กำหนดวันที่ 5 เดือน 5 เป็นวันทุเรียนไทย สร้างจุดขายให้ตรงกับช่วงเวลาที่ดีที่สุดของผลผลิต
• 3. ดันยอดขายผ่านงานแสดงสินค้านานาชาติ: นำทุเรียนไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้านำเข้าในเมืองใหญ่ของจีน เช่น งานแสดงสินค้าอาเซียน-จีน และเชิญผู้นำเข้าจีนมาร่วมงานแสดงสินค้าในไทย เช่น THAIFEX เพื่อเปิดโอกาสทางธุรกิจโดยตรง
• 4. กระตุ้นการบริโภคผ่านกิจกรรมพิเศษ: ร้านอาหารไทยและคาเฟ่ในจีน นำเสนอเมนูพิเศษจากทุเรียน เช่น ข้าวเหนียวทุเรียน ไอศกรีมหมอนทอง รวมถึงการจัดกิจกรรม “ทุเรียนทัวร์” ในซูเปอร์มาร์เก็ตและศูนย์การค้า พร้อมบุฟเฟ่ต์ทุเรียนในงานเทศกาลไทย

กลยุทธ์เหล่านี้คาดว่าจะช่วยให้การส่งออกทุเรียนไทยในปีนี้เป็นไปอย่างราบรื่น และสามารถขยายส่วนแบ่งตลาดในจีนได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการไทยได้อย่างต่อเนื่อง