วันนี้ คุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรัฐมนตรีคลัง หัวหน้าทีมไทยแลนด์ จะนำคณะบินไปยังสหรัฐฯเพื่อเตรียมการเจรจาภาษีตอบโต้ 36% กับผู้แทนสหรัฐฯในวันจันทร์ที่ 21 เมษายน แต่ก่อนที่จะบินไปเจรจากับสหรัฐฯ ขุนคลังพิชัย ได้นัด “ผู้ว่าการนก” ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หารือกันอย่างเป็นทางการถึงแนวทางที่จะไปเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อประเมินถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อ ค่าเงินบาท เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ตลาดเงิน ตลาดทุนไทย รวมทั้งหารือถึง มาตรการผ่อนคลายข้อจำกัด เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์สามารถช่วยเหลือผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบได้

ถือว่า ขุนคลังพิชัย มีความรอบคอบมาก เพราะ ผลกระทบทางการเงินและค่าเงินบาทมีความสำคัญยิ่งกว่าการค้าเสียอีก

สัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐฯเจอวิกฤติการเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯจำนวนมาก หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) เมื่อ 2 เม.ย. ส่งผลให้ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯระยะยาว 30 ปี พุ่งขึ้นจาก 3.99% (4 เม.ย.) ไปถึง 4.9689% (9 เม.ย.) ผู้ถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯได้รับความเสียหายอย่างมาก ทำให้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ต้องรีบประกาศ เลื่อนการบังคับใช้ภาษีต่างตอบแทนออกไป 90 วัน (9 เม.ย.) แต่นักลงทุนทั่วโลกก็ยังไม่เชื่อมั่นในตัวผู้นำสหรัฐฯ การประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯระยะยาว 30 ปี ในวันถัดมา 10 เม.ย. อัตราดอกเบี้ยยังสูงถึง 4.813%

ไม่มีใครคาดได้ว่า ความผันผวนของดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐฯจะสงบนิ่งเมื่อไหร่ เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ ยังเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีอยู่ตลอดเวลาตามอารมณ์์ที่แปรปรวน

คุณพอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง เจ้าของรางวัลโนเบล ได้โพสต์ลง substrack.com โดยตั้งชื่อเรื่องว่า “The Third–Worlding of America–อเมริกากำลังจะกลายเป็นประเทศโลกที่สาม” วิจารณ์ประธานาธิบดีทรัมป์ว่าใช้เวลาเพียง 3 เดือนนับจากวันที่เข้ารับตำแหน่งสมัยที่สอง ทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศสหรัฐฯที่สะสมมา 80 ปี คุณครุกแมนวิจารณ์ทรัมป์อย่างรุนแรงว่า โง่ (stupid) คุ้มดีคุ้มร้าย (erratic) และอ่อนแอ (weak) นโยบายภาษีที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของทรัมป์ ทำให้ตลาดสูญเสียความเชื่อมั่นในค่าเงินดอลลาร์และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้นมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนเทขายและเงินดอลลาร์อ่อนค่า

คุณครุกแมน บอกว่า สัญญาณจากตลาดหุ้นที่ร่วงแรงในสัปดาห์ที่แล้วไม่ได้บอกอะไรมากนัก แต่การเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯและเงินดอลลาร์ สะท้อนถึงการสูญเสียความเชื่อมั่น

โพสต์ของ คุณครุกแมน ระบุอีกว่า “การดูสัญญาณตลาดการเงิน มือสมัครเล่นมักจะดูที่ตลาดหุ้น แต่มืออาชีพจะพูดถึงตลาดพันธบัตรและอัตราแลกเปลี่ยน เพราะตลาดพันธบัตรและอัตราแลกเปลี่ยน ถูกขับเคลื่อนด้วย ‘อารมณ์’ น้อยกว่าตลาดหุ้น การลงทุนในตลาดพันธบัตรและอัตราแลกเปลี่ยน ไม่มีการลงทุนตามกระแสเหมือนตลาดหุ้น สองตลาดนี้กำลังส่งสัญญาณถึงการสูญเสียความเชื่อมั่นในอเมริกาครั้งใหญ่

แทนที่ทรัมป์จะทำให้ อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง กลับทำให้ อเมริกาตกตํ่าลงไปอยู่โลกที่สาม ผมเชื่อว่า ถ้าทรัมป์ครองอำนาจครบ 4 ปี และเดินตามนโยบายภาษีนี้ต่อไปอีก 4 ปี เราจะได้เห็นอเมริกากลายเป็นประเทศโลกที่สามเป็นจริงมากขึ้น”

คุณเจเน็ต เยลเลน อดีตรัฐมนตรีคลัง อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็ออกมาแสดงความกังวลว่า พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเคยเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยของโลก แต่วันนี้คนเริ่มตั้งคำถามแล้ว บ่งชี้ถึงความสูญเสียความเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ความปลอดภัยของสินทรัพย์หลักของโลก (พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ) ก็ถือเป็นเวรกรรมของชาวอเมริกันที่เลือก โดนัลด์ ทรัมป์ มาเป็นผู้นำ มีผู้นำโง่เราจะตายกันหมด กำลังจะเป็นจริง.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม