เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ที่เมืองเจจู สาธารณรัฐเกาหลี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้พบหารือกับ นาย Karan Bhatia, Global Head and Vice President for Government Affairs and Public Policy และคณะผู้บริหารของบริษัท Google ในระหว่างการเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีด้านการค้าของเอเปค (Ministers Responsible for Trade: MRT) โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย เชิญชวน Google ให้เข้ามาลงทุนในเทคโนโลยีสมัยใหม่ในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น รวมถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายด้านภาษีของสหรัฐอเมริกาที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ กล่าวว่า ในการหารือครั้งนี้ ไทยได้แสดงความขอบคุณและชื่นชมที่ Google ให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนการลงทุนของ Google ในธุรกิจ Data Center และ Cloud Services ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีที่สะท้อนถึงความพร้อมของประเทศไทยในการก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจดิจิทัลที่สำคัญในระดับภูมิภาค

ทางด้านผู้บริหารของ Google มองว่า ประเทศไทยมีศักยภาพที่แข็งแกร่งในการเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็นต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) และแผงวงจรพิมพ์ (PCB) ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาและต่อยอดในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ใช้โอกาสนี้เชิญชวนให้ Google พิจารณาขยายการลงทุนในประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยได้เน้นย้ำถึงจุดแข็งของไทยในด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีความพร้อม ระบบพลังงานที่เสถียร รวมถึงทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเอื้ออำนวยและสามารถรองรับการลงทุนขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมดิจิทัลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะธุรกิจจัดเก็บข้อมูลและดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งถือเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันและอนาคต

นอกจากนี้ นายพิชัยยังได้แสดงความห่วงกังวลต่อผู้บริหาร Google เกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของ Google ในประเทศไทย โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องถึงความจำเป็นในการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อหาแนวทางในการลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการดังกล่าว พร้อมกันนี้ ฝ่ายไทยยังได้ขอให้ Google ช่วยส่งสารถึงรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เพื่อสื่อสารว่า ประเทศไทยมีความพร้อมและมีความตั้งใจอย่างจริงจังในการเจรจาอย่างสร้างสรรค์ เพื่อร่วมกันหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับข้อกังวลร่วมกัน และสร้างประโยชน์ร่วมกันได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ในส่วนของการเสนอแนะจาก Google ทางบริษัทได้ให้ข้อคิดเห็นว่า ประเทศไทยควรเร่งพัฒนาและปรับปรุงกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เอื้อต่อการประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการค้าและการลงทุนในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของระบบเศรษฐกิจในอนาคต

นายพิชัย กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า “ประเทศไทยมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะต้อนรับการลงทุนจากภาคเอกชนต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งถือเป็นกลไกที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ยุคใหม่ รัฐบาลไทยพร้อมที่จะให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยสามารถก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างแท้จริง”