ประธานหอการค้าไทยเห็นด้วยรัฐบาลโยกงบ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ เฟส 3-4 กว่า 1.5 แสนล้าน ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ชี้ ‘ดีกว่าแจกเงิน’

กรุงเทพฯ – นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แสดงความเห็นสนับสนุนมติคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 2/2568 ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีสาระสำคัญคือการชะลอการแจกเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตระยะที่ 3 และ 4 ออกไปก่อน

มติดังกล่าวได้โยกงบประมาณจำนวน 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งเดิมตั้งใจจะใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 และ 4 ไปใช้เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมในมิติต่างๆ แทน โดยเน้นไปที่การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ คมนาคมขนส่ง การส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) กองทุนหมู่บ้าน การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงการพัฒนาการศึกษาสำหรับเยาวชน

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ กล่าวว่า ตนเองเห็นด้วยอย่างยิ่งกับการตัดสินใจปรับการใช้งบประมาณและการโยกเงินดังกล่าวเพื่อนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในเบื้องต้น พร้อมทั้งสนับสนุนการจัดกิจกรรมและมาตรการที่ส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ดีและตรงจุดกว่าการใช้งบประมาณเพื่อแจกเงินเพียงอย่างเดียว

ท่านประธานหอการค้าไทยย้ำถึงสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า และเศรษฐกิจภายในประเทศเอง ซึ่งมีความจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน โดยเฉพาะการเร่งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นภาคการส่งออก การบริโภคภายในประเทศ หรือภาคการท่องเที่ยว สามารถเดินหน้าไปได้อย่างคล่องตัว เพราะภาคส่วนเหล่านี้ล้วนเชื่อมโยงโดยตรงกับธุรกิจ SMEs และแรงงานจำนวนมากในระบบเศรษฐกิจ

นายพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับแก้โครงสร้างทางเศรษฐกิจนั้นให้ผลในเชิงบวกที่ยั่งยืนกว่าการแจกเงินแบบให้เปล่า โดยรัฐบาลควรพิจารณาคัดเลือกและเข้าไปดูแลประเด็นปัญหาที่ต้องประคับประคองอย่างเร่งด่วนก่อน เช่น ภาคการส่งออก ภาคการผลิต และภาคการท่องเที่ยว ซึ่งหากภาคส่วนเหล่านี้แข็งแกร่งและปรับตัวได้ดีขึ้น ก็จะส่งผลดีต่อภาคการบริโภคภายในประเทศตามมาครับ/ค่ะ ส่วนการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เวลาและงบประมาณสูง อาจพิจารณาใช้งบประมาณจากปีถัดๆ ไป เช่น ปีงบประมาณ 2569 ซึ่งมีความเหมาะสมมากกว่า

ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวทิ้งท้ายว่า ทางหอการค้าไทยพร้อมให้การสนับสนุนมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลจะออกมาเพื่อช่วยเหลือและกระตุ้นภาคธุรกิจ และพร้อมที่จะเข้าไปหารือ แลกเปลี่ยนข้อมูล รวมถึงข้อเท็จจริงจากมุมมองของภาคเอกชน เพื่อร่วมกันหาแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะสั้นให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะการพิจารณาออกมาตรการที่เจาะจงลงไปในแต่ละอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจ ซึ่งมีความต้องการและปัญหาที่แตกต่างกัน เพื่อให้เกิดรายได้และเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจต่างๆ เอกชนพร้อมให้ข้อมูลในทุกด้าน และหวังว่าจะได้มีโอกาสพบปะหารือกับคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆ นี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *