หอการค้าฯ จับมือ ‘รมช.เกษตร’ หารือเร่งแก้ปัญหา BY2 การค้า หวังปลดล็อกส่งออก ดัน ‘ผำ’ โกอินเตอร์ สร้างความเชื่อมั่นให้เกษตรกรไทย
กรุงเทพมหานคร – นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดหารือร่วมกับนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการสายงานเกษตรและอาหาร หอการค้าไทย ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ตลอดจนแก้ไขปัญหาภาคเกษตรภายในประเทศและส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรไทย โดยมีประเด็นสำคัญที่หารือคือ ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสาร Basic Yellow2 (BY2) และโอกาสในการส่งเสริมการเพาะเลี้ยง ‘ผำ’ เพื่อการส่งออก
นายอิทธิ ศิริลัทธยากร กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายหลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องเกษตรกร โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนการผลิต เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร และสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่เกษตรกร การหารือกับคณะกรรมการหอการค้าไทยฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีในการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อร่วมกันพัฒนา แก้ไขปัญหา และขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับข้อเสนอแนะและความกังวลที่ทางหอการค้าไทยฯ ได้นำเสนอ โดยเฉพาะประเด็นปัญหาการส่งออกสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้องกับสาร Basic Yellow2 (BY2) นั้น นายอิทธิยืนยันว่า กระทรวงเกษตรฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกรณีของการส่งออกทุเรียนไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของไทย กระทรวงได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด และได้เพิ่มจำนวนห้องปฏิบัติการในการตรวจหาสาร Basic Yellow2 เพื่อให้กระบวนการตรวจรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งความพยายามเหล่านี้ประสบความสำเร็จในการปลดล็อกข้อจำกัดการส่งออกทุเรียนไทย สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้าและเกษตรกรผู้ส่งออกทุเรียน
ในส่วนของข้อกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กล่าวย้ำว่า กระทรวงเกษตรฯ ยึดหลักการในการรักษาผลประโยชน์สูงสุดของพี่น้องเกษตรกรไทยเป็นสำคัญ การพิจารณาอนุญาตการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารจากต่างประเทศจะต้องไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อเกษตรกรภายในประเทศ โดยจะพิจารณาเฉพาะสินค้าที่มีความจำเป็นและประเทศไทยยังมีการผลิตที่ขาดแคลนเท่านั้น
นอกจากประเด็นปัญหาและอุปสรรคในการส่งออกแล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังแสดงความพร้อมในการสนับสนุนความร่วมมือกับหอการค้าไทยฯ ในด้านอื่นๆ เพื่อยกระดับภาคเกษตรไทย อาทิ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแช่เยือกแข็งไทย การส่งเสริมการพัฒนา ‘อาหารแห่งอนาคต’ (Future Food) การสนับสนุนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยง ‘ผำ’ ซึ่งเป็นพืชน้ำขนาดเล็กที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพื่อการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือในการขับเคลื่อนศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร (AFC)
นายอิทธิ ศิริลัทธยากร กล่าวทิ้งท้ายว่า ข้อเสนอและความร่วมมือต่างๆ ที่ได้หารือในวันนี้ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องการยกระดับความเป็นอยู่ สร้างความมั่นคงทางรายได้ และส่งเสริมความยั่งยืนให้กับภาคการเกษตรไทย โดยการผนึกกำลังระหว่างภาครัฐและเอกชนจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายนี้ให้สำเร็จลุล่วงต่อไป.