ครม. ไฟเขียวงบ 1.57 แสนล้านบาท! แผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ มุ่งเป้ากระจายเม็ดเงินสู่ฐานราก

ทำเนียบรัฐบาล – คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวงเงินรวม 157,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นแผนการลงทุนขนาดใหญ่ที่มุ่งหวังกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น สร้างงาน สร้างรายได้ และวางรากฐานการพัฒนาประเทศในระยะยาว โดยจะกระจายงบประมาณไปยังโครงการสำคัญใน 4 มิติหลัก เน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมการท่องเที่ยว ภาคการเกษตร และเศรษฐกิจชุมชน

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม. ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนดังกล่าวตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา งบประมาณจำนวนนี้มาจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ

รายละเอียดแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท

แผนนี้ครอบคลุมโครงการและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายด้าน โดยสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มหลักๆ ได้ดังนี้:

1. โครงสร้างพื้นฐาน (ด้านน้ำและคมนาคม):
   • แก้ไขปัญหาการจราจรที่เป็นคอขวดและขาดความเชื่อมโยง (Bottleneck/Missing Link)
   • เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางและขนส่ง
   • แก้ไขปัญหาจุดตัดระหว่างทางรถไฟและถนนเสมอระดับ
   • ก่อสร้าง/ปรับปรุงจุดพักรถบรรทุกเพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายขนส่ง
   • ปรับปรุง/พัฒนาถนนเชื่อมโยงเมืองรอง แหล่งท่องเที่ยว และพื้นที่การผลิต
2. การท่องเที่ยว: สนับสนุนและส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศ
3. ลดผลกระทบภาคการส่งออก/เพิ่มผลิตภาพ:
   • ด้านการเกษตร: ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและปรับเปลี่ยนพื้นที่เพาะปลูกให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มผลิตภาพทางการเกษตร
   • ด้านการลดผลกระทบแรงงาน: สนับสนุนมาตรการทางการเงินการคลังและสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการส่งออก เพื่อส่งเสริมการจ้างงาน
   • ด้านดิจิทัล: พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล เพื่อรองรับรัฐบาลดิจิทัลและการค้าระหว่างประเทศ
4. เศรษฐกิจชุมชนและอื่น ๆ: มุ่งเน้นการกระจายเม็ดเงินและสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจในระดับชุมชน

การดำเนินการตามแผนนี้ หน่วยรับงบประมาณจะต้องจัดทำข้อเสนอโครงการและคำของบประมาณตามแบบฟอร์มที่กำหนด และเสนอผ่านผู้บังคับบัญชาหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล เพื่อเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ และนำเสนอสำนักงบประมาณภายในเดือนพฤษภาคม 2568

ส่วนการพิจารณาอนุมัติโครงการและการจัดสรรงบประมาณ สำนักงบประมาณจะดำเนินการภายในเดือนกรกฎาคม 2568 โดยอิงตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลางฯ พ.ศ. 2567

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเน้นย้ำว่า แผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจนี้จะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการเร่งรัดการใช้จ่ายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงาน การกระจายรายได้ และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจในระยะยาว เช่น การลงทุนในทุนมนุษย์ และการปรับปรุงกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเพิ่มผลิตภาพแรงงาน รัฐบาลจะมีการติดตามแผนการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การใช้งบประมาณเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

คาดว่างบประมาณ 1.57 แสนล้านบาทนี้ จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยพยุงและกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต