กรุงเทพฯ – เมื่อเร็วๆ นี้ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ ศาสตราจารย์ ดร.อภินันท์ โปษยานนท์, นายดุสิต เขมะศักดิ์ชัย, นายนิติกร กรัยวิเชียร, นายวิรัช เมฆสัมพันธ์, นายแพทริค หอรัตนชัย ได้เดินทางเข้าถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส ณ สถานเอกอัครสมณทูตนครรัฐวาติกันประจำประเทศไทย โดยมีพระอัครสังฆราชปีเตอร์ ไบรอัน เวลส์ เอกอัครสมณทูตนครรัฐวาติกันประจำประเทศไทย กัมพูชา และผู้แทนพระสันตะปาปาประจำประเทศลาว ให้การต้อนรับและขอบคุณคณะที่มาร่วมแสดงความเสียใจต่อการจากไปของสมเด็จพระสันตะปาปาผู้เป็นที่รักและเคารพ

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส หรือพระนามเดิม พระคาร์ดินัล ฮอร์เค มาริโอ แบร์โกกลิโอ ประสูติที่กรุงบัวโนส-เอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1936 ทรงเป็นพระประมุขลำดับที่ 266 แห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ได้รับการแต่งตั้งขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อ ค.ศ. 2013 พระองค์ทรงเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์แรกจากคณะเยสุอิต เป็นพระองค์แรกจากทวีปอเมริกาใต้ และเป็นพระองค์แรกที่มิได้มาจากทวีปยุโรปนับตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 8

การเข้าถวายความอาลัยครั้งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับนครรัฐวาติกัน และความร่วมมือระหว่างศาสนาพุทธและคริสต์ที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 350 ปี นับตั้งแต่มีการสถาปนามิสซังสยามในประเทศไทย มิตรภาพและภราดรภาพระหว่างสองศาสนาได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง สร้างความสัมพันธ์ที่เกื้อกูลกันมาจนถึงปัจจุบัน

เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ตอกย้ำความสัมพันธ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2515 เมื่อสำนักเลขาธิการองค์การศาสนสัมพันธ์แห่งรัฐวาติกัน ได้อาราธนาสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ปุ่น ปุณฺณสิริ) ขณะดำรงสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ให้ไปเยือนนครรัฐวาติกันอย่างเป็นทางการ และเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 ในวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2515 นับเป็นเหตุการณ์สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างพุทธ – คริสต์ในระดับสากล

อีกเหตุการณ์สำคัญคือการเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส ระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลอง 350 ปีแห่งการสถาปนามิสซังสยาม และฉลองครบ 50 ปีแห่งสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและวาติกัน การเสด็จเยือนครั้งนั้นทรงปฏิบัติภารกิจในการสร้างมิตรภาพและการเสวนาระหว่างศาสนา นำมาซึ่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในสังคม และสร้างความประทับใจอย่างยิ่งแก่ทั้งชาวคริสต์และชาวพุทธในประเทศไทย

ทั่วโลกร่วมแสดงความอาลัยต่อการจากไปของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส ซึ่งทรงสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2568 ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ในประเทศไทยเองก็มีหลายหน่วยงานจัดพิธีร่วมแสดงความอาลัย เช่น พิธีบูชาขอบพระคุณเพื่ออุทิศแด่ดวงวิญญาณ ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ, พิธีสวดพระพุทธมนต์ถวายแด่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายโดยคณะสงฆ์จีนนิกายและพุทธบริษัทไทย-จีน ณ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเคารพรักในองค์สมเด็จพระสันตะปาปา และความผูกพันอันแน่นแฟ้นระหว่างศาสนาต่างๆ ในประเทศไทย