เซี่ยเหมิน, จีน – ทีมแบดมินตันทีมชาติไทยประเดิมสนามในศึกแบดมินตันประเภททีมผสมชิงแชมป์โลก "สุธีรมาน คัพ 2025" ที่เมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้อย่างงดงาม เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา ด้วยการโชว์ฟอร์มเหนือชั้น เอาชนะทีมชาติฮ่องกงไปได้อย่างขาดลอย 5-0 คู่ ในแมตช์แรกของกลุ่มเอ

การแข่งขันแมตช์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ เป็นการเปิดฉากเส้นทางลุ้นแชมป์ของทัพนักตบลูกขนไก่ไทย ซึ่งผลการแข่งขันในแต่ละคู่เป็นไปตามความคาดหมายและสร้างความมั่นใจให้กับทีมได้อย่างมาก

ผลการแข่งขันแต่ละคู่ มีดังนี้:

ประเภทชายคู่: "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ จับคู่กับ "โอโม่" พรรคพล ธีระรัตน์สกุล โชว์ฟอร์มดุดัน เอาชนะ ฮุง เกว่ยชุน กับ ลอว ชุคฮิม จากฮ่องกงไปอย่างง่ายดาย 2 เกมรวด ด้วยสกอร์ 21-14 และ 21-10 ช่วยให้ทีมไทยขึ้นนำก่อน 1-0 คู่

ประเภทหญิงเดี่ยว: "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 6 ของโลก ยังคงมาตรฐานสูง เอาชนะ โลว ซิน ยาน แฮปปี้ มืออันดับ 50 ของโลก ไปได้ 2-0 เกม สกอร์ 21-18 และ 21-12 ขยับแต้มให้ทีมไทยออกนำห่างเป็น 2-0 คู่

ประเภทชายเดี่ยว: "วิว" กุลวุฒิ วิทิตซานต์ มืออันดับ 2 ของโลก แม้จะพลาดท่าในเกมแรก แต่สามารถรวมพลังกลับมาเอาชนะ อึ้ง กาลอง อังกุส มืออันดับ 19 ของโลก ไปได้แบบสุดมัน 2-1 เกม ด้วยสกอร์ 16-21, 21-10 และ 21-11 การเก็บแต้มสำคัญในคู่ที่สามนี้ ส่งให้ทีมไทยการันตีชัยชนะในแมตช์นี้ทันที ด้วยสกอร์นำ 3-0 คู่

ประเภทหญิงคู่: "เจน" เฌอย์ณิชา สุดใจประภารัตน์ จับคู่กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ลงสนามในคู่ที่สี่ และไม่ทำให้ผิดหวัง เอาชนะ หยาง งาติง กับ หยาง ปุยแลม คู่มืออันดับ 13 ของโลก ไปได้ 2 เกมรวด สกอร์ 21-16 และ 21-18 เพิ่มสกอร์ให้ทีมไทยเป็น 4-0 คู่

ประเภทคู่ผสม: คู่มืออันดับ 11 ของโลกอย่าง "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ จับคู่กับ "เฟม" ศุภิสรา เพียวสามพราน ลงปิดท้ายอย่างสวยงาม แม้จะต้องออกแรงถึง 3 เกม แต่ก็สามารถเอาชนะ ตัง ชุนมาน กับ ซื่อ หยิงซวด คู่มืออันดับ 5 ของโลก ไปได้ 2-1 เกม ด้วยสกอร์ 14-21, 21-18 และ 21-16 ตอกย้ำชัยชนะอันสมบูรณ์แบบ 5-0 คู่

ชัยชนะเหนือฮ่องกง 5-0 คู่ ถือเป็นการออกสตาร์ทที่ยอดเยี่ยมของทีมแบดมินตันไทยในศึกสุธีรมาน คัพ 2025 แสดงให้เห็นถึงความพร้อมและศักยภาพของนักกีฬาทุกคน

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไป ทีมแบดมินตันทีมชาติไทยมีคิวลงสนามพบกับทีมชาติแอลจีเรีย ในวันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2568 เวลา 16.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย แฟนกีฬาชาวไทยสามารถติดตามและส่งกำลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาไทยกันต่อไป