เรื่องราวดราม่าร้อนระอุในวงการแบดมินตันไทย เมื่อคุณแม่ของ น้องพิ้งค์ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวดาวรุ่งวัย 18 ปี มืออันดับ 55 ของโลก ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความรู้สึกเจ็บปวดและเป็นห่วงลูกสาวอย่างสุดซึ้ง เกี่ยวกับการจัดโปรแกรมการแข่งขันที่ถี่จนเกินไป

คุณแม่แหม่ม คุณแม่ของน้องพิ้งค์ ได้ระบายความในใจหลังจากที่ลูกสาวต้องลงสนามแข่งขันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรายการใหญ่อย่าง แบดมินตัน ไทยแลนด์ โอเพ่น ซึ่งต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาตั้งแต่รอบคัดเลือกถึง 2 แมตช์ ก่อนจะเข้าสู่รอบเมนดรอว์

ในโพสต์ดังกล่าว คุณแม่แหม่มได้เขียนข้อความด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปทั้งความภูมิใจในหัวใจนักสู้ของลูก แต่ก็แฝงด้วยความกังวลอย่างหนักถึงสภาพร่างกาย โดยระบุข้อความตอนหนึ่งว่า “เป็นชัยชนะที่แม่รู้สึกเจ็บปวดและสงสารลูกจับใจ เพราะแม่รู้ว่าหนูต้องต่อสู้กับอะไรมาบ้าง แต่ลูกสาว แม่ได้พิสูจน์แล้วว่า ใจลูกเกิน 100 จริงๆ ทุกครั้งที่แข่งแม่จะเชียร์ให้หนูมีชัยแต่ครั้งนี้แม่ได้แต่ภาวนาขอให้ลูกสาวแม่อย่าได้เกิดการบาดเจ็บหรือกล้ามเนื้อฉีกขาด ในระหว่างการแข่งขัน”

คุณแม่กล่าวต่อไปถึงปัญหาหลักคือเรื่องตารางเวลาการแข่งขันที่บีบอัดมากเกินไป ทำให้ร่างกายของนักกีฬาไม่มีเวลาฟื้นฟูอย่างเพียงพอ “การแข่งขันในวันนี้ไม่เพียงแค่ต่อสู้กับรูปเกมส์ในสนาม แต่ลูกสาวแม่ต้องสู้กับร่างกายตัวเอง ที่แบกรับความล้ามาตั้งแต่แข่งรายการไทเป จวบจนมาแข่งที่ไทยแลนด์โอเพ่น ก็เจอคู่แข่งที่หนักมาตั้งแต่รอบคลอว์ 2แมต จวบจนมาถึงรอบเมนดอว์ คิดว่า จะได้แข่งช่วงเวลาเย็นเพื่อให้ร่างกายได้พักบ้างแต่พอรู้ว่าพรุ่งนี้ต้องแข่ง 10 โมง น้ำตาแม่ตกในอีกครั้ง พูดไม่ออก…มันจุกที่อก ทำไม? ทำไม? ทำไม เกิดอะไรขึ้นกับสายแข่งและเวลาการจัดการแข่งขัน ….. จะให้หนูมีเวลาพักร่างกายเกิน12 ชั่วโมงไม่ได้เลยหรอ”

คุณแม่ยังได้บรรยายถึงสภาพร่างกายของน้องพิ้งค์หลังจบการแข่งขันรอบล่าสุดที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง “รอบนี้เป็นเพียงแค่รอบเมนดอร์ววันแรก แม้แต่จะยืนยังยืนไม่ไหวต้องใช้ไม้แบดค้ำพื้น เพื่อประคองร่างตัวเอง ก้าวขึ้นบันไดก็แทบไม่ไหว พรุ่งนี้ต้องมาตื่นแต่เช้าเพื่อไปแข่งคู่ที่2 ของรายการ……… ไม่รู้จะพูดอะไรต่ออีกแล้ว”

จากโพสต์ดังกล่าว คุณแม่แหม่มต้องการสื่อสารไปยังผู้จัดการแข่งขันหรือผู้ใหญ่ในวงการ ให้เห็นใจและให้ความสำคัญกับการดูแลสภาพร่างกายของนักกีฬา โดยทิ้งท้ายว่า “แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่างน้อยน้องพิ้งค์ลูกสาวแม่ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ลูกคือ #นักสู้ตัวจริง #ขอผู้จัดหรือผู้ใหญ่เมตตาเซฟร่างกายนักกีฬา น้องพิ้งค์ขอบคุณเสียงเชียร์ที่ดังลั่นฮอลเป็นกำลังใจที่ดีในเฮือกสุดท้ายที่ดีมากๆค่ะ”

ข้อความของคุณแม่น้องพิ้งค์ สะท้อนถึงความกังวลของคนใกล้ชิดนักกีฬาที่ต้องเผชิญกับโปรแกรมการแข่งขันอันหนักหน่วง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพระยะยาว และเป็นประเด็นที่ฝ่ายจัดการแข่งขันควรนำไปพิจารณา เพื่อหาแนวทางการจัดตารางที่เหมาะสมและคำนึงถึงสวัสดิภาพของนักกีฬาเป็นสำคัญ