กาญจนบุรี – หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดกาญจนบุรี หลังสถานการณ์สู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังฝ่ายต่อต้านทวีความรุนแรงในพื้นที่ใกล้เคียงช่องทางพุน้ำร้อน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือและป้องกันผลกระทบต่อประชาชน รวมถึงการรุกล้ำอธิปไตย

วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 รายงานจากพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดกาญจนบุรี ระบุถึงสถานการณ์ความไม่สงบในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งกำลังส่งผลกระทบต่อการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ไทย โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของ หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า (ฉก.ลาดหญ้า) / กรมทหารราบที่ 29 กองกำลังสุรสีห์ (กกล.สุรสีห์)

จากสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเมียนมากับทหารเมียนมา ซึ่งปะทุขึ้นบริเวณบ้านทิกิ กิ่งอำเภอเมตตา จังหวัดทวาย ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามกับบ้านพุน้ำร้อน อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยการสู้รบได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2568 เป็นต้นมา และทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รายงานข่าวจาก ฉก.ลาดหญ้า เปิดเผยว่า กองกำลังฝ่ายต่อต้านสามารถเข้ายึดกองบังคับการณ์ทางยุทธศาสตร์ที่ 1 บริเวณบ้านแม่น้ำ กิ่งอำเภอเมตตา จังหวัดทวาย ซึ่งอยู่ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 10 กิโลเมตร ได้เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 จากนั้น กองกำลังฝ่ายต่อต้านได้เร่งขยายผลการปฏิบัติการ นำกำลังเข้าโจมตีฐานทหารเมียนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในบริเวณบ้านทิกิ ซึ่งอยู่ตรงข้ามช่องทางพุน้ำร้อน จังหวัดกาญจนบุรี

เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว กองกำลังสุรสีห์ และศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดกาญจนบุรี ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า บูรณาการความร่วมมือกับส่วนราชการและส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ยกระดับการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น ด้วยการจัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมเข้าสู่พื้นที่

นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มมาตรการในการปฏิบัติการทางทหารในทุกรูปแบบตลอดแนวชายแดนบริเวณบ้านพุน้ำร้อน ทั้งในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อพี่น้องประชาชนชาวไทยที่อาศัยอยู่ใกล้แนวชายแดนได้อย่างเต็มที่

กกล.สุรสีห์ ยังได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกองทัพอากาศ ในกรณีที่มีการปฏิบัติการของอากาศยานจากประเทศเพื่อนบ้านบริเวณใกล้แนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของไทยที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ฝั่งเมียนมา โดยเน้นย้ำว่าการดำเนินการทั้งหมดมีเป้าหมายหลักคือการรักษาความปลอดภัยของประชาชนและอธิปไตยของชาติอย่างเข้มงวด