การบินไทย ผลประกอบการ Q1/2568 พุ่งแรง กำไรโต 306% จ่อพ้นแผนฟื้นฟูฯ เตรียมกลับเข้าตลาดหุ้น
กรุงเทพฯ – บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ที่น่าพอใจอย่างยิ่ง ด้วยรายได้รวมกว่า 5.1 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิเกือบ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 300% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า พร้อมทั้งมีความคืบหน้าสำคัญในการออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ และเตรียมกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 แข็งแกร่ง
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 เกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) จำนวน 51,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 45,955 ล้านบาท
สำหรับกำไรสุทธิ บริษัทฯ ทำได้ถึง 9,839 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 306.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ผลประกอบการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาจากการขยายตัวของความต้องการเดินทางทางอากาศที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการที่บริษัทฯ ได้ทำการขยายขนาดฝูงบิน และเพิ่มความถี่เที่ยวบิน ส่งผลให้จำนวนปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (Available Seat Kilometers: ASK) เพิ่มขึ้น 21.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (Revenue Passenger Kilometers: RPK) ก็เพิ่มขึ้น 20.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 4.33 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11.6% จากปีก่อนหน้า
แผนเพิ่มฝูงบินและติดตั้ง Wi-Fi ฟรี
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง บริษัทฯ มีแผนเพิ่มจำนวนเครื่องบินในฝูงบินเป็น 81 ลำในปี 2568 จากปัจจุบันที่มีเครื่องบินที่ใช้งานอยู่ 77 ลำ โดยในช่วงแรกจะทยอยรับมอบเครื่องบินแบบแอร์บัส A330 จำนวน 1 ลำ, โบอิ้ง 789 จำนวน 1 ลำ และเครื่องบินแอร์บัส A321 Neo ใหม่ จำนวน 2 ลำ และมีแผนรับมอบเครื่องบินเพิ่มเติมอีก 15 ลำในปี 2569
“เครื่องบินใหม่เหล่านี้จะมาพร้อมกับระบบความบันเทิงส่วนตัวทุกที่นั่ง และบริการ Wi-Fi ฟรีสำหรับสมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส ทุกระดับ เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้โดยสาร ซึ่งเราคาดว่าจะเริ่มรับมอบล็อตแรกได้ช่วงปลายปี 2568” นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการปรับปรุงเครื่องบินปัจจุบัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและประสิทธิภาพของฝูงบิน ด้วยการทยอยติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (In-flight Connectivity: IFC) บนเครื่องบินแอร์บัส A330-300 และปรับปรุงห้องโดยสาร
ปัจจุบันได้เปิดให้บริการแล้วบนเครื่องบิน 2 ลำแรก ผู้โดยสารสามารถใช้งานแชทและส่งข้อความได้ไม่จำกัดโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และจะเปิดให้บริการอินเทอร์เน็ตเต็มรูปแบบฟรีสำหรับสมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส ตามระดับสมาชิก ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป
ความคืบหน้าการพ้นแผนฟื้นฟูและกลับเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
ในส่วนของความคืบหน้าการออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ หลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 ได้มีมติอนุมัติการแต่งตั้งคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่ บริษัทฯ ได้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568
ส่งผลให้บริษัทฯ ปฏิบัติตามเงื่อนไขของแผนฟื้นฟูครบถ้วนแล้ว และได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้มีคำสั่งยกเลิกแผนฟื้นฟูกิจการแล้วตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2568 โดยศาลฯ ได้กำหนดวันไต่สวนคำร้องในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 หากศาลฯ มีคำสั่งยกเลิกแผนฟื้นฟูฯ ในช่วงครึ่งหลังของเดือนมิถุนายน หน้าที่ของคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการจะสิ้นสุดลง
หลังจากนั้น อำนาจการบริหารจัดการจะกลับคืนสู่คณะกรรมการบริษัทชุดใหม่ ซึ่งจะต้องมีการประชุมเพื่อเลือกประธานกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบ ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อให้บริษัทฯ สามารถกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อีกครั้ง
“การกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้อีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี ถือเป็นความท้าทายและความเสี่ยงอีกประการหนึ่งที่เราต้องเผชิญ โดยเฉพาะความผันผวนของตลาดทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ และความคาดหวังของผู้ถือหุ้น อย่างไรก็ตาม เรามีความมั่นใจในผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น และการบริหารจัดการองค์กรที่แข็งแกร่ง จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้” นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
สำหรับบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด หลังจากที่คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการมีมติอนุมัติให้ดำเนินการเลิกบริษัทฯ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 นั้น บริษัทฯ ได้ดำเนินการถ่ายโอนเครื่องบินแอร์บัส A320 ทั้งหมดเข้าฝูงบินของการบินไทย และยกเลิกการให้บริการของไทยสมายล์แอร์เวย์ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567
แนวโน้มไตรมาส 2 และตลาดออสเตรเลีย
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวสรุปว่า แม้ว่าไตรมาสที่ 2 ปี 2568 โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน จะเป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว (Low Season) แต่แผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ควรจะทำให้การเติบโตยังคงแข็งแกร่ง ดังจะเห็นได้จากข้อมูลยอดสำรองที่นั่งล่วงหน้าในช่วงดังกล่าว ที่ยังคงขยายตัวได้ดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในขณะเดียวกัน ตลาดออสเตรเลียเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจนและคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวของยุโรป ทำให้มีความต้องการเดินทางสูง แนวโน้มนี้คาดว่าจะส่งผลบวกอย่างมีนัยสำคัญต่อรายได้ของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งหลังของปี