กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – วันที่ 27 เมษายน 2568 – บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ออกมายืนยันความชัดเจนเกี่ยวกับสถานะข้อพิพาทด้านแรงงานที่เกิดขึ้นกับอดีตพนักงานบางราย โดยระบุว่า ศาลแรงงานและศาลฎีกา ซึ่งเป็นศาลที่มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทด้านแรงงานโดยตรง ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่า การเลิกจ้างพนักงานที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2564 ของบริษัทฯ เป็นการดำเนินการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม

ตามที่อดีตพนักงานบางส่วนได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง โดยกล่าวหาว่าการเลิกจ้างดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้ศาลมีคำสั่งให้การเลิกจ้างเป็นโมฆะนั้น การบินไทยได้ชี้แจงต่อศาลล้มละลายกลางเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อยืนยันกระบวนการทางกฎหมายที่บริษัทได้ดำเนินการไปแล้ว

บริษัท การบินไทยฯ เน้นย้ำว่า ตลอดกระบวนการบริหารจัดการบุคลากร รวมถึงการปรับโครงสร้างองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการเลิกจ้าง บริษัทได้ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อบังคับและระเบียบของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด มีการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายครบถ้วน และได้จ่ายค่าชดเชย รวมถึงสิทธิประโยชน์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างสมบูรณ์

การบินไทยได้ชี้แจงต่อศาลล้มละลายกลางว่า กรณีข้อพิพาทเกี่ยวกับการเลิกจ้างพนักงานทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น ได้ผ่านการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนโดยศาลแรงงานมาแล้วทุกคดี และเมื่อมีการอุทธรณ์คดี ก็ได้ผ่านการพิจารณาและมีคำพิพากษาโดยศาลฎีกา ซึ่งเป็นศาลสูงสุดในลำดับสุดท้ายแล้วเช่นกัน

ผลการพิจารณาของศาลในทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับการเลิกจ้างในปี 2564 บริษัท การบินไทยฯ เป็นฝ่ายชนะคดี โดยศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่า การดำเนินการเลิกจ้างของบริษัทเป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ และเป็นการเลิกจ้างโดยธรรม ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งหรือกระทำโดยมิชอบ

นอกจากนี้ การบินไทยยังได้ชี้แจงต่อศาลล้มละลายกลางเพิ่มเติมว่า การที่อดีตพนักงานบางรายนำประเด็นข้อพิพาทเรื่องการเลิกจ้างเดียวกันกับที่ศาลแรงงานและศาลฎีกาได้วินิจฉัยและมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว มายื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางอีกครั้งนั้น ถือเป็นการใช้สิทธิในทางที่ไม่สุจริต และเป็นการฟ้องซ้ำซ้อน ซึ่งกฎหมายไม่อนุญาตให้กระทำได้ ทั้งนี้ การชี้แจงดังกล่าวเป็นการให้ข้อมูลที่ถูกต้องต่อศาล เพื่อให้กระบวนการพิจารณาเป็นไปอย่างโปร่งใสและยุติธรรม โดยบริษัทฯ มั่นใจในความถูกต้องของกระบวนการที่ได้ดำเนินการมาโดยตลอด