“ทวี สอดส่อง” ชง ครม. อนุมัติ “ซอฟท์โลน” 1.5 หมื่นล้านบาท ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจชายแดนใต้ พร้อมรับฟังปัญหาภาคธุรกิจ

ยะลา – พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้ามาตรการช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรน หรือ "ซอฟท์โลน" วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท มุ่งช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ

การเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นระหว่างที่ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เข้าร่วมและปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "การสร้างความโปร่งใสในระบบการเงินและการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้อย่างมั่นคงและเป็นธรรม" ณ โรงแรมปาร์ควิว จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 โดยการสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นโดยคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร มี ส.ส. พรรคประชาชาติในพื้นที่ อาทิ นายอับดุลอายี สาแม็ง, นายสุไลมาน บือแนปีแน, ผศ.ดร.วรวิทย์ บารู, นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ และ นายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม ภาควิชาการ สื่อมวลชน และประชาชนเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก

พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เล็งเห็นถึงผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจและการลงทุนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้เตรียมมาตรการช่วยเหลือเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยหนึ่งในมาตรการสำคัญคือการต่ออายุและปรับปรุงเงื่อนไขโครงการซอฟท์โลนภาคใต้ ซึ่งโครงการปัจจุบันจะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายนนี้ ให้ขยายออกไป

สำหรับรายละเอียดของโครงการซอฟท์โลนที่จะเสนอใหม่นั้น จะมีการจัดเตรียมวงเงินไว้ทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท เพื่อปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนผ่านสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ โดยสถาบันการเงินเหล่านี้จะนำวงเงินดังกล่าวไปปล่อยสินเชื่อต่อให้กับผู้ประกอบการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส รวมถึง 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา คือ อำเภอเทพา จะนะ นาทวี และสะบ้าย้อย เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่โดยตรง

นอกจากนี้ ในการสัมมนา ยังมีการหารือถึงข้อเสนอแนวทางเพื่อเสริมสร้างความเป็นธรรมแก่ลูกหนี้ในโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายลดข้อจำกัด เพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูกิจการ และลดภาระหนี้สินประชาชนอย่างแท้จริง

ข้อเสนอสำคัญที่นำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจระดับนโยบาย อาทิ การอนุญาตให้ผู้ประกอบการใช้เงินซอฟท์โลนเพื่อชำระหนี้เดิมได้ ภายใต้เงื่อนไขที่ฝ่ายเจ้าหนี้เดิมจะต้องปรับลดภาระของลูกหนี้ควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้ธุรกิจฟื้นฟูได้อย่างแท้จริง และเสนอให้ผ่อนปรนข้อจำกัดดังกล่าว รวมถึงข้อเสนอในการกำหนดให้เจ้าหนี้ที่ลูกหนี้ได้รับซอฟท์โลน ต้องปรับลดภาระหนี้เดิม เช่น การปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้เดิมลง หรือการขยายระยะเวลาการชำระหนี้เดิมให้เหมาะสมกับศักยภาพของลูกหนี้ รวมถึงการส่งเสริมการ "ปรับโครงสร้างหนี้" อย่างเป็นระบบ โดยอาศัยซอฟท์โลนเป็นกลไกในการเปลี่ยนผ่าน

รวมถึงข้อเสนอแนะถึงการบังคับใช้ลำดับการตัดชำระหนี้ตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ "การตัดหนี้แนวขวาง" ตามประกาศ ธปท. ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2564 เพื่อให้มั่นใจว่าการชำระหนี้ของลูกหนี้จะสามารถลดเงินต้นได้จริง และป้องกันไม่ให้เกิดกรณีที่ประชาชนชำระหนี้เป็นเวลานานโดยหนี้ไม่ลด

ผลที่คาดว่าจะได้รับจากข้อเสนอแนะเหล่านี้ คือการเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ซอฟท์โลนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก สามารถลดภาระดอกเบี้ยสะสมและภาวะหนี้เรื้อรังของลูกหนี้ เสริมสร้างความเป็นธรรมในระบบสินเชื่อ และต่อมาตรการภาครัฐให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด

ในช่วงท้ายของการสัมมนา ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายสมพงศ์ สิมาพัฒนพงศ์ ที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมจังหวัดยะลา ในฐานะผู้แทนภาคธุรกิจในจังหวัดชายแดนใต้ ได้นำคณะผู้แทนภาคธุรกิจเข้ามอบช่อดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง พร้อมอวยพรให้ประสบความสำเร็จในการแก้ไขอุปสรรคต่างๆ เพื่อเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่อไป

สำหรับกำหนดการในช่วงบ่าย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง มีกำหนดการลงพื้นที่พบปะประชาชนในจังหวัดยะลา ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในช่วงค่ำวันเดียวกัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *