พ.ต.อ.ทวี ขับเคลื่อนเกษตรชายแดนใต้ สู่ฮับเศรษฐกิจฮาลาลยั่งยืน แก้ปัญหาเกษตรกรครบวงจร
กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2568 ณ โรงแรม อัลมีรอซ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานการประชุมสำคัญร่วมกับเครือข่ายสภาเกษตรกรชายแดนใต้ (Southern Border Farmers Council Network)
การประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อหารือสถานการณ์ ความท้าทาย และแนวทางในการพัฒนาภาคการเกษตรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มุ่งสู่การเป็นต้นแบบเศรษฐกิจฮาลาลที่ยั่งยืน (HALAL Sustainable Economy) ในระดับภูมิภาคอาเซียน และยกระดับให้เป็นมหานครศูนย์กลางเศรษฐกิจฮาลาล (HALAL MEGAHUB) ของภูมิภาคในอนาคต
ในระหว่างการประชุมฯ เครือข่ายสภาเกษตรกรชายแดนใต้ได้ร่วมกันสะท้อนปัญหาและอุปสรรคที่เกษตรกรในพื้นที่กำลังเผชิญอยู่ อาทิ ปัญหาราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ความไม่เพียงพอของที่ดินทำกิน ต้นทุนการผลิตทั้งด้านการเกษตรและปศุสัตว์ที่สูงขึ้น ข้อจำกัดด้านเงินทุนสำหรับเกษตรกรรายย่อย การเข้าถึงงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืช การส่งเสริมผลผลิตจากท้องถิ่น การพัฒนาปศุสัตว์ โดยเฉพาะการเลี้ยงและแปรรูปเนื้อวัวฮาลาล การขาดองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี การขาดแคลนแรงงาน การปลูกฝังภูมิปัญญาเกษตรสู่คนรุ่นใหม่ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการเกษตร การเชื่อมโยงองค์ความรู้กับประเทศเพื่อนบ้าน และการเข้าถึงการสนับสนุนจากภาครัฐ
ที่ประชุมได้หารืออย่างเข้มข้นถึงแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจฮาลาลอย่างยั่งยืน พร้อมผลักดันพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นเมืองเกษตรปลอดภัยและความมั่นคงด้านอาหาร (The Organic Land / Foodsecurity) ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การพัฒนา 7 ด้าน ได้แก่ ระบบการผลิตการเกษตร สิ่งแวดล้อม ครอบครัว การท่องเที่ยว การศึกษา สุขภาพ และระบบการบริหารจัดการใหม่
เป้าหมายหลักของยุทธศาสตร์นี้คือการพัฒนาเกษตรกรให้สามารถผลิตสินค้าเกษตรฮาลาลได้อย่างยั่งยืน เพิ่มมูลค่าและยกระดับคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานฮาลาล เชื่อมโยงตลาดและกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบการบริหารจัดการรูปแบบใหม่ ภายใต้โมเดลองค์กรธุรกิจการเกษตรภายใต้การกำกับของรัฐ
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้ยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการสนับสนุนภาคการเกษตรเพื่อสร้างความมั่นคงในทุกมิติ ทั้งด้านการศึกษา เทคโนโลยี รวมถึงระบบการขนส่งสินค้าเกษตร พร้อมกล่าวเน้นย้ำว่า “รัฐบาลอยากเห็นเกษตรมีความมั่นคงในทุกด้าน… ซึ่งในปีนี้รัฐบาลได้อนุมัติงบกลางเพื่อเร่งศึกษาแนวทางพัฒนารถไฟรางคู่จากสุไหงโกลก มาหาดใหญ่ เพื่อให้เกษตรกรสามารถขนส่งสินค้า โดยเฉพาะของสดให้ไปสู่ประเทศผู้ซื้อให้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น” ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการแก้ปัญหาด้านโลจิสติกส์
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาต่างๆ ที่นำเสนอโดยเครือข่ายฯ อาทิ การถ่ายทอดองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่คนรุ่นใหม่ โดยการประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งหากทำได้สำเร็จ คาดว่าจะสามารถสร้างแรงจูงใจให้เยาวชนคนรุ่นใหม่อยู่ในพื้นที่และประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้มากขึ้น
ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่า การได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมจากภาครัฐ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมการเกษตรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เติบโตอย่างยั่งยืน ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ขยายฐานตลาด และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระดับภูมิภาค
ในช่วงท้ายของการประชุม พ.ต.อ.ทวี ได้กล่าวขอบคุณเครือข่ายสภาเกษตรกรชายแดนใต้สำหรับข้อมูลและการสะท้อนปัญหาที่เป็นประโยชน์ พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการวางรากฐานเครือข่ายสภาเกษตรกรฯ ให้มีความเข้มแข็งเป็นอันดับแรก และเปิดกว้างให้เครือข่ายฯ สามารถระดมความคิดเห็นและนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหามายังรัฐบาลได้โดยตรง เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในพื้นที่อย่างแท้จริง
“รวมถึงได้เสนอให้มีการเชื่อมต่อและประสานงานกับจังหวัดอื่นๆ ด้วย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายและการดำเนินงานด้านการเกษตรต่อไป” พ.ต.อ.ทวี กล่าวปิดท้าย