ทวี มั่นใจ รัฐบาลจีนแทรกแซงคดีตึก สตง. ถล่มไม่ได้ ย้ำ เงินเยียวยา 120 ล้าน ไม่มีผลลดโทษ

กรุงเทพฯ – พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันหนักแน่นว่า รัฐบาลจีนไม่สามารถเข้าแทรกแซงคดีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มได้ แม้บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และอ้างว่าเป็นรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลจีนส่งมาลงทุนในไทย จะเสนอเงินเยียวยาให้ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บถึง 120 ล้านบาทก็ตาม

พ.ต.อ.ทวี กล่าวเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล ชี้แจงถึงกรณีที่บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10ฯ ได้อนุมัติเงิน 120 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ โดยระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำให้การของผู้ต้องหาในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญาโดยตรง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเน้นย้ำว่า เงินเยียวยาจำนวนนี้ถือเป็นเรื่องของมนุษยธรรมและการแสดงเจตนาช่วยเหลือความเสียหาย ซึ่งปรากฏในคำให้การ อย่างไรก็ตาม เงินจำนวนนี้จะไม่มีผลต่อการลดหย่อนโทษในคดีอาญา โดยคดีจะดำเนินไปตามกระบวนการทางกฎหมายไทยอย่างเคร่งครัด

สำหรับขั้นตอนการช่วยเหลือเยียวยา หากบริษัทจีนประสงค์จะดำเนินการ ก็อาจทำร่วมกับบริษัท อิตาเลียนไทย ซึ่งเป็นผู้รับเหมาโครงการ เพื่อไม่ให้เป็นภาระของรัฐบาล แต่หากต้องการให้รัฐเข้าไปมีบทบาทในการดูแล ก็ต้องพิจารณาตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรีในการรับเงินและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุต่อไป

พ.ต.อ.ทวี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการประสานงานโดยตรงจากทางประเทศจีน มีเพียงข้อมูลที่พนักงานสอบสวนบันทึกไว้ในคำให้การของผู้ต้องหาเท่านั้น พร้อมแสดงความชื่นชมในเจตนาที่จะช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ แต่ยืนยันว่าการช่วยเหลือนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงข้อกฎหมายหรือบทลงโทษแต่อย่างใด

ส่วนประเด็นที่นายชวนหลิง จาง กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10ฯ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลจีนส่งมาลงทุน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า สถานะดังกล่าวไม่มีผลต่อการดำเนินคดีตามกฎหมายไทย โดยเฉพาะในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่กำลังสอบสวนคดีนอมินี ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ซึ่งดีเอสไอได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องครบแล้ว โดยมีคนไทย 3 คน และคนจีน 1 คน

คดีนอมินีนี้แม้มีอัตราโทษไม่สูง แต่ดีเอสไอกำลังเร่งสอบสวนให้แล้วเสร็จภายในกรอบเวลาที่กำหนด (ตามหลักไม่เกิน 4 ผัด หรือประมาณ 4 เดือน) โดยคาดว่าจะเสร็จภายใน 3 ผัด เพื่อให้อัยการมีเวลาพิจารณาสำนวน

ในส่วนของการสอบสวนหาสาเหตุของตึกถล่มนั้น ดีเอสไอและเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการแยกเป็นอีกคดีหนึ่ง ซึ่งไม่เกี่ยวกับคดีนอมินี หรือคดีที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างและฮั้วประมูล

นอกจากนี้ ยังมีคดีที่เกี่ยวเนื่องคือกรณีบริษัทเหล็กที่ถูกกล่าวหาว่าใช้ใบกำกับภาษีปลอม ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปี 2559-2560 โดยต้องตรวจสอบว่ามีการซื้อเหล็กจากบริษัทนี้หลังปี 2560 อีกหรือไม่ ซึ่งคดีนี้มีแนวคำวินิจฉัยจากศาลฎีกาแล้ว จึงได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ทำงานอย่างรอบคอบ

เมื่อถูกถามย้ำว่าการอ้างถึงรัฐบาลจีนจะสร้างความกดดันให้เจ้าหน้าที่ไทยหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลจีนหรือคนไทย ทุกฝ่ายต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทยและอำนวยความยุติธรรมเท่าเทียมกัน พร้อมระบุว่า รัฐบาลจีนเองก็ย้ำเสมอว่าเคารพกฎหมายไทย

พ.ต.อ.ทวี แสดงความมั่นใจว่า รัฐบาลจีนไม่น่าจะเข้ามาแทรกแซงคดีนี้ได้ เนื่องจากประเทศไทยยึดมั่นตามหลักกฎหมาย และกระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานที่ทำงานภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่ใช่อำนาจตามนโยบาย

ส่วนกรณีที่คนไทย 3 คนเข้ามอบตัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมระบุว่า ตามหลักกฎหมายยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยก่อนออกหมายจับ ดีเอสไอได้ตรวจสอบประเด็นต่างๆ อย่างรอบคอบ รวมถึงการตรวจสอบที่มาของเงินทุน การโอนหุ้น และสถานะทางภาษีของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *