Tag: เนสกาแฟ

ศาลมีนบุรีสั่งห้ามจำหน่าย ‘เนสกาแฟ’ ในไทยชั่วคราว หลังพิพาทลิขสิทธิ์เนสท์เล่-พันธมิตรไทย

กรณีพิพาททางธุรกิจระหว่างบริษัทเนสท์เล่ ประเทศไทย กับบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส ของตระกูลมหากิจศิริ กำลังสร้างความสั่นสะเทือนในวงการธุรกิจ หลังศาลแพ่งมีนบุรีมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนสกาแฟในประเทศไทย ความขัดแย้งนี้เริ่มต้นเมื่อปี 2564 ที่เนสท์เล่แจ้งยกเลิกสัญญาการผลิตเนสกาแฟกับพันธมิตรไทยซึ่งร่วมกันตั้งบริษัทมาตั้งแต่ปี 2533 โดยจะมีผลในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 นี้ แต่เกิดข้อพิพาทระหว่างผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับการดำเนินงานในอนาคต ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ศาลแพ่งมีนบุรีมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามเนสท์เล่ผลิต ว่าจ้างผลิต จำหน่ายและนำเข้ากาแฟสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์เนสกาแฟในประเทศไทย

ศาลสั่งเนสท์เล่ชนะคดี กลับมาขาย ‘เนสกาแฟ’ ในไทยได้ตามปกติ

ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง มีคำสั่งยืนยันให้บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เป็นผู้มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการใช้เครื่องหมายการค้า “Nescafé” และ “เนสกาแฟ” ในประเทศไทย หลังความขัดแย้งทางกฎหมายที่ยาวนาน เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ ทป 58/2568 ได้มีคำสั่งชี้ขาดว่าเนสท์เล่สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เนสกาแฟในประเทศไทยได้ตามปกติทันที นายแพทย์วิศิษฐ์ ลิ้มศิริวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนสท์เล่

เนสท์เล่ประกาศกลับมาขายผลิตภัณฑ์เนสกาแฟได้ตามปกติ หลังศาลยืนยันสิทธิเครื่องหมายการค้า

วันนี้ (13 เม.ย.) บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ประกาศว่าสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เนสกาแฟได้ตามปกติแล้ว หลังศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งยืนยันสิทธิในเครื่องหมายการค้า “Nescafé” และ “เนสกาแฟ” จากรายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ ทป 58/2568 ได้มีคำสั่งยืนยันว่าเนสท์เล่เป็นผู้มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวในประเทศไทย โดยคำสั่งศาลมีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่วันที่ออกคำสั่ง “เรายินดีอย่างยิ่งกับคำตัดสินของศาลในครั้งนี้

เนสท์เล่ชนะคดีศาล กลับมาจำหน่าย ‘เนสกาแฟ’ ได้ตามปกติ ยันเป็นเจ้าของสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว

จากข้อพิพาททางกฎหมายที่เขย่าวงการกาแฟเมืองไทยระหว่าง เนสท์เล่ บริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ระดับโลก เจ้าของแบรนด์ เนสกาแฟ กับตระกูลมหากิจศิริ ซึ่งร่วมกันก่อตั้งบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP) เพื่อผลิตกาแฟ ตั้งแต่ปี 2533 และยุติสัญญาในวันที่ 31 ธ.ค.2567 ล่าสุดศาลได้มีคำสั่งชี้ขาดให้ เนสท์เล่ เป็นผู้ถือสิทธิ์เครื่องหมายการค้า Nescafe และ เนสกาแฟ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศ

เนสท์เล่ชนะคดี! ศาลชี้ขาดเป็นเจ้าของสิทธิ์ ‘เนสกาแฟ’ แต่เพียงผู้เดียวในไทย เปิดทางกลับมาจำหน่ายได้ปกติ

ความคืบหน้าสำคัญในข้อพิพาททางกฎหมายระหว่าง “เนสท์เล่” ยักษ์ใหญ่ด้านอาหารระดับโลก กับตระกูล “มหากิจศิริ” เจ้าของบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP) ล่าสุดศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งชี้ขาดให้เนสท์เล่เป็นผู้ถือสิทธิ์เครื่องหมายการค้า “Nescafe” และ “เนสกาแฟ” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยคดีนี้มีที่มาจากการที่เนสท์เล่แจ้งยุติสัญญาการให้สิทธิ QCP ผลิตเนสกาแฟในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งมีผลอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2567 หลังจากนั้นเกิดความขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นทั้งสองฝ่ายจนนำสู่การฟ้องร้องทางกฎหมาย ก่อนหน้านี้ศาลแพ่งมีนบุรีเคยมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามเนสท์เล่ผลิต

ลุ้น 17 เม.ย. ศาลนัดไต่สวนฉุกเฉินคำร้อง ‘เนสท์เล่’ ขอถอนคำสั่งห้ามผลิต-ขาย ‘เนสกาแฟ’ ในไทย

กรณีพิพาทด้านลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้ากาแฟสำเร็จรูประหว่างบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กับคู่ความอีกฝ่าย กำลังเข้าสู่ช่วงสำคัญ เมื่อศาลแพ่งมีนบุรีกำหนดนัดไต่สวนฉุกเฉินในวันที่ 17 เมษายน 2568 เวลา 09.00 น. เพื่อพิจารณาคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของเนสท์เล่ รายงานข่าวล่าสุดเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา เนสท์เล่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งมีนบุรี ขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวที่ศาลมีคำสั่งเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 ห้ามบริษัทดำเนินการผลิต ว่าจ้างผลิต

เนสท์เล่แสดงความห่วงใยเกษตรกร-คู่ค้า หลังศาลสั่งห้ามผลิต-ขายเนสกาแฟในไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากศาลแพ่งมีนบุรี ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามมิให้เนสท์เล่ ผลิต ว่าจ้างผลิต จำหน่าย และนำเข้า ผลิตภัณฑ์แบรนด์ ‘เนสกาแฟ’ ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 9 เม.ย.2568 เนสท์เล่ ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า เนสท์เล่ แจ้งยุติสัญญาที่ให้สิทธิ บริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP) ในการผลิตเนสกาแฟในปี 2564

เนสท์เล่เผชิญวิกฤตศาลสั่งห้ามผลิต-จำหน่ายเนสกาแฟในไทย กระทบทั้งห่วงโซ่อุปทาน

เนสท์เล่ ประเทศไทย กำลังเผชิญกับวิกฤตทางกฎหมายหลังศาลแพ่งมีนบุรีออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามผลิต ว่าจ้างผลิต จำหน่าย และนำเข้าผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ Nescafé ในประเทศไทย ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อผู้ประกอบการรายย่อย เกษตรกร และซัพพลายเออร์ทั่วประเทศ จากกรณีที่เนสท์เล่ยุติสัญญากับบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเนสกาแฟในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2533 หลังศาลอนุญาโตตุลาการสากลมีคำตัดสินให้ยุติสัญญา โดยมีผลสมบูรณ์ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2567

เนสท์เล่กังวลผลกระทบผู้ประกอบการรายย่อย หลังศาลสั่งห้ามผลิต-ขายเนสกาแฟในไทย เตรียมยื่นคัดค้าน

วันที่ 9 เมษายน 2568 – หลังศาลแพ่งมีนบุรีมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามเนสท์เล่ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนสกาแฟในประเทศไทย บริษัทเนสท์เล่ได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลถึงผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อยและเตรียมยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งดังกล่าว คดีนี้เริ่มต้นจากนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ผู้ถือหุ้นบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP) ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งมีนบุรี ขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามเนสท์เล่ดำเนินการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เนสกาแฟในประเทศไทย โดยศาลมีคำสั่งเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา เนสท์เล่ชี้แจงว่าได้ยุติสัญญากับ QCP ตั้งแต่ปี 2564 หลังการตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการสากล

xee4.com อัพเดทข่าวสารรวดเร็ว ครบทุกประเด็น

BREAKING NEWS