Tag: สงครามการค้า

สงครามการค้าระดับโลก! สหรัฐฯ-จีนขึ้นภาษีตอบโต้ ส่งผลกระทบวงกว้าง

มาตรการภาษีตอบโต้ระหว่างสองมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาและจีนกำลังสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างทั่วโลก หลังทั้งสองฝ่ายต่างเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าของกันและกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสหรัฐฯ ได้ตอบโต้จีนด้วยการเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าสูงถึง 125% จากเดิมที่เพิ่มไปแล้ว 30% ขณะที่จีนก็เพิ่มภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ 84% สถานการณ์นี้ถูกมองว่าเป็น “สงครามการค้า” ที่ไม่มีทีท่าว่าจะยุติในเร็ววัน โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยกล่าวไว้ว่าทุกประเทศจะต้องยอมตามเงื่อนไขของสหรัฐฯ ในที่สุด ซึ่งดูเหมือนว่าคำพูดนี้กำลังเป็นจริงในปัจจุบัน โดยหลายประเทศที่ไม่ได้ตอบโต้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ ต้องยอมเจรจาต่อรองและปฏิบัติตามข้อเรียกร้องในที่สุด ผลกระทบจากสงครามการค้าครั้งนี้ส่งผลถึงประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะหากต้องนำเข้าสินค้าเกษตรและปศุสัตว์จากสหรัฐฯ ในราคาที่สูงขึ้น ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยโดยตรง นอกจากนี้

จีนเร่งกระชับความสัมพันธ์อาเซียน! ‘สี จิ้นผิง’ เตรียมเยือน 3 ชาติ เวียดนาม-มาเลเซีย-กัมพูชา สัปดาห์หน้า

วันที่ 11 เมษายน 2568 – กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเดินทางเยือน 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างวันที่ 14–18 เมษายนนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ท่ามกลางแรงกดดันจากสงครามการค้าสหรัฐฯ โดยกำหนดการเยือนจะเริ่มต้นที่เวียดนามในวันที่ 14–15 เมษายน จากนั้นเดินทางต่อไปยังมาเลเซียและกัมพูชาในช่วงวันที่ 15–18 เมษายน การเดินทางครั้งนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้าจีน ขณะที่ 3

จีนตอบโต้สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าเป็น 125% เริ่ม 12 เม.ย. นี้ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงยืนยัน “ไม่หวั่นไหว”

จีนประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% เพิ่มขึ้นจาก 84% ที่ประกาศเมื่อวันพุธ ซึ่งเท่ากับอัตราภาษีปัจจุบันของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีน โดยจะมีผลในวันที่ 12 เม.ย. นี้ ขณะที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เผย “ไม่หวั่นไหว” คณะกรรมการภาษีศุลกากรของคณะรัฐมนตรีจีนแถลงเมื่อวันศุกร์ว่า จีนได้ขึ้นภาษีตอบโต้สินค้าจากสหรัฐฯ จาก 84% เป็น 125% จากแถลงการณ์ของโฆษกกระทรวงพาณิชย์ ดูเหมือนว่าจะเป็นการบ่งชี้ว่าจีนจะไม่ขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เกินกว่า 125%

จีนตอบโต้สหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าเป็น 125% เริ่มวันเสาร์นี้

กรุงปักกิ่ง (AP) — จีนประกาศมาตรการตอบโต้ทางการค้าเมื่อวันศุกร์ โดยขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ จากเดิม 84% เป็น 125% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันเสาร์นี้ การขึ้นภาษีครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ทั้งสองประเทศกำลังยกระดับสงครามการค้า แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะระงับการขึ้นภาษีสำหรับประเทศอื่นๆ ชั่วคราวก็ตาม ทรัมป์กำหนดอัตราภาษีรวมสำหรับสินค้าจีนที่ 145% โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เขาประกาศว่าจะขึ้นภาษีจีนเป็น 125% แต่ยังไม่รวมภาษี 20% ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเฟนทานิลของจีน “การขึ้นภาษีในระดับที่ผิดปกติของสหรัฐฯ

จีนตอบโต้หนัก! ขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐเป็น 125% สงครามการค้าระอุต่อเนื่อง

สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาและจีนยังคงร้อนระอุต่อเนื่อง ล่าสุดทางการจีนได้ประกาศตอบโต้ด้วยการ上调ภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากสหรัฐจากเดิม 84% เป็น 125% อย่างเป็นทางการแล้ว การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทำเนียบขาวของสหรัฐได้ประกาศขึ้นภาษีสินค้าจากจีนเป็น 145% เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยืนยันมาตรการดังกล่าวผ่านแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนเคยแสดงท่าทีว่าจะไม่ตอบโต้ต่อมาตรการภาษีเพิ่มเติมจากสหรัฐ โดยโฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า “มาตรการภาษีที่สูงผิดปกติของสหรัฐถือเป็นการละเมิดกฎการค้าโลก หลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐาน และสามัญสำนึก” พร้อมทั้งประณามว่าการกระทำดังกล่าวเป็น “การกลั่นแกล้งและบังคับขู่เข็ญแบบฝ่ายเดียว” นักวิเคราะห์หลายสำนักคาดการณ์ว่าสงครามการค้าครั้งนี้อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในห่วงโซ่อุปทานระดับโลกที่เชื่อมโยงระหว่างสองประเทศมหาอำนาจนี้

ราคาทองคำทะลุ 3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรก สูงสุดเป็นประวัติการณ์

ราคาทองคำทะลุระดับสำคัญที่ 3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรก และทะลุระดับสูงสุดใหม่วันนี้ (11 เม.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้บรรดานักลงทุนแห่ซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ราคาทองคำพุ่งขึ้น 1.3% สู่ระดับ 3,216.48 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 02.30 น. ตามเวลามาตรฐานสากล ส่วนทองคำแท่งพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 3,219.73 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน โดยเพิ่มขึ้นกว่า 5% ในสัปดาห์นี้ ส่วนราคาทองคำในตลาดซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.9%

สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนปะทุ ไทยเร่งตั้งทีมเจรจา หวั่นผลกระทบเศรษฐกิจโลก

ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนกำลังทวีความรุนแรงขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้ประเทศคู่ค้าอย่างแข็งกร้าว ส่งผลให้รัฐบาลไทยต้องเร่งตั้งทีมเจรจาพิเศษเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นหัวหน้าคณะทีมเจรจา ซึ่งประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ โดยมีกำหนดเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันในวันที่ 17 เมษายนนี้ ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้ความเห็นว่า สถานการณ์ปัจจุบันเป็นผลจากนโยบาย “Make America Great Again” ของทรัมป์ ที่ต้องการแก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ

สหรัฐขึ้นภาษีจีนสูงสุด 145% ดันสงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจร้อนระอุ

ทำเนียบขาวยืนยันมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็น 145% ล่าสุด หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามเพิ่มอัตราภาษีอีก 125% เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา สร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดโลก แหล่งข่าวจากบีบีซีรายงานว่า อัตราดังกล่าวยังไม่รวมภาษีเพิ่มเติม 20% ที่สหรัฐเคยใช้เป็นมาตรการลงโทษจีนจากกรณีไม่ยับยั้งการลักลอบนำยาเฟนทานิลเข้าสหรัฐ ประธานาธิบดีทรัมป์ให้สัมภาษณ์ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า “สหรัฐอยู่ในสถานะที่ดีมาก และเราพอใจกับทิศทางปัจจุบัน” พร้อมย้ำว่ามาตรการนี้เป็นความพยายามให้โลกปฏิบัติต่อสหรัฐอย่างยุติธรรม ด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนตอบโต้ด้วยการจัดงานแถลงข่าวโดย โฆษกหลิน เจี้ยน เมื่อวันที่ 10 เมษายน

ราคาทองคำพุ่งแตะ 3,500 ดอลลาร์ สะท้อนความตึงเครียดสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ราคาทองคำตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ปรับตัวสูงขึ้นถึง 460 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 17.48% โดยปัจจัยหลักมาจากความกังวลต่อนโยบายภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐและจีน ทั้งนี้ สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกได้บานปลาย จนจีนถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงถึง 125% ส่งผลให้ราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จีนออกคำเตือนประชาชนประเมินความเสี่ยงก่อนเดินทางไปสหรัฐฯ หลังความสัมพันธ์ตึงเครียด

เมื่อวันพุธที่ 9 เมษายน กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีนได้ออกประกาศเตือนความเสี่ยงสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่วางแผนจะเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา โดยระบุให้ประชาชนประเมินความเสี่ยงและเดินทางด้วยความระมัดระวัง สาเหตุหลักมาจากความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศที่เสื่อมถอยลงอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงสถานการณ์ความปลอดภัยภายในสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อนักท่องเที่ยว การประกาศนี้มีขึ้นหลังจีนตอบโต้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐเพิ่ม 50% ซึ่งเป็นการตอบโต้มาตรการเดียวกันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำหนดกับสินค้าจีน รายงานจาก Global Times เปิดเผยว่าสหรัฐฯ เพิ่งประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนสูงถึง 104% โดยเริ่มบังคับใช้ในวันเดียวกันนี้ ทำให้เกิดสงครามทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนประณามการกระทำของสหรัฐฯ ว่า “ไม่มีมูลความจริง”

xee4.com อัพเดทข่าวสารรวดเร็ว ครบทุกประเด็น

BREAKING NEWS