Tag: พ.ร.ก.ไซเบอร์

กสทช. เอาจริง! สั่งค่ายมือถือ ‘รับผิดชอบ’ ความเสียหายอาชญากรรมออนไลน์ เข้มกฎหมายไซเบอร์ใหม่

กรุงเทพฯ – วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการบูรการแนวทางในการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีโทรคมนาคมและความมั่นคงของรัฐ ถึงมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคม ที่มีความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568 หรือ พ.ร.ก.ไซเบอร์ ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่

กสทช. เข้ม! ขานรับ พ.ร.ก.ไซเบอร์ใหม่ กำหนดมาตรการให้โอเปอเรเตอร์ร่วมรับผิดชอบสกัด ‘อาชญากรออนไลน์’ ยกระดับความปลอดภัยประชาชน

กรุงเทพฯ – คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เดินหน้าอย่างแข็งขันในการกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้สอดคล้องกับพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา โดยล่าสุดได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ เพื่อหารือแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน เน้นย้ำการมีส่วนร่วมรับผิดชอบของผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่และโทรคมนาคม. เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช.

ราชกิจจานุเบกษาประกาศใช้ พ.ร.ก.ไซเบอร์ ฉบับที่ 2 คุ้มครองประชาชนจากมิจฉาชีพ เริ่มบังคับใช้ 13 เม.ย.นี้

เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 และพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 โดยมีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่วันที่ประกาศ สาระสำคัญของพระราชกำหนด พระราชกำหนดฉบับนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อคุ้มครองประชาชนจากการถูกหลอกลวงทางเทคโนโลยี ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นมูลค่าสูงในแต่ละวัน โดยกำหนดให้สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ต้องมีส่วนรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น บทลงโทษ สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่กำหนด ต้องระวางโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท เหตุผลในการออกพระราชกำหนด

โปรดเกล้าฯ พ.ร.ก.ไซเบอร์ฉบับใหม่! ธนาคาร-เครือข่ายมือถือร่วมรับผิดชอบหากประชาชนถูกหลอก เริ่มบังคับใช้ 13 เม.ย.

วันที่ 12 เมษายน 2568 – เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2568 เป็นต้นไป พระราชกำหนดฉบับนี้มีสาระสำคัญในการเพิ่มความรับผิดชอบให้กับสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ ต้องร่วมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หากไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีมาตรการป้องกันตามที่กำหนด มาตรา 8/10 ระบุชัดเจนว่า ผู้ให้บริการต่างๆ

ครม. เห็นชอบร่างพ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์และกำกับสินทรัพย์ดิจิทัล เตรียมบังคับใช้สงกรานต์ 2568

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) สองฉบับสำคัญ ได้แก่ ร่างพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และร่างพ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสร้างมาตรการกำกับดูแลธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลให้รัดกุมยิ่งขึ้น สำหรับร่างพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ร่างพ.ร.ก.ไซเบอร์ นั้น มีเป้าหมายหลักในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างกว้างขวาง ผ่านวิธีการต่าง ๆ เช่น การโทรศัพท์หลอกลวง การส่งข้อความหลอกขอข้อมูลส่วนบุคคล หรือการส่งลิงก์ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันที่เป็นอันตราย คาดว่าร่างพ.ร.ก.ทั้งสองฉบับจะมีผลบังคับใช้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 นี้ ซึ่งสาระสำคัญของร่างพ.ร.ก.ไซเบอร์ประกอบด้วย การกำหนดให้สถาบันการเงิน

รัฐบาลเร่งประกาศใช้ พ.ร.ก.ไซเบอร์ 2 ฉบับ ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก่อนสงกรานต์

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 เม.ย. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยความคืบหน้าการประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เกี่ยวกับมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยคาดว่าจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเร็ววันนี้ นายประเสริฐกล่าวว่า ทั้งสองฉบับนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยหากประกาศใช้แล้วจะมีผลบังคับใช้ทันที ซึ่งตนอยากให้ทันก่อนเทศกาลสงกรานต์นี้ สำหรับเนื้อหาสำคัญของ พ.ร.ก.ทั้งสองฉบับ

ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.ก.ไซเบอร์ใหม่ เพิ่มอำนาจระงับบริการโทรศัพท์-ลงโทษหนักผู้ประกอบการดิจิทัลผิดกฎหมาย

วันที่ 8 เมษายน 2568 – ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เสนอ ซึ่งผ่านการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว สาระสำคัญของร่าง พ.ร.ก.ฉบับนี้ ได้แก่

กฤษฎีกาแยก ‘พ.ร.ก.ไซเบอร์’ เป็น 2 ร่าง ป้องกันเงินดิจิทัลไหลออกนอกระบบ

วันที่ 8 เมษายน 2568 – ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ พ.ร.ก.ไซเบอร์ จะเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในวันนี้ โดยก่อนหน้านี้ร่าง พ.ร.ก. นี้เคยเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.

ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.ก.ไซเบอร์ใหม่ เพิ่มโทษมิจฉาชีพ-เร่งคืนเงินผู้เสียหาย

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เสนอ ซึ่งผ่านการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ร่าง พ.ร.ก.นี้มีสาระสำคัญในการเพิ่มมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และมิจฉาชีพ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ทันทีหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา

xee4.com อัพเดทข่าวสารรวดเร็ว ครบทุกประเด็น

BREAKING NEWS