Tag: พรรคเพื่อไทย

ภูมิธรรม ย้ำสัมพันธ์ ‘เพื่อไทย-ภูมิใจไทย’ เหมือนเดิม ชี้เห็นต่างธรรมดา ยังไร้สัญญาณปรับ ครม.

ทำเนียบรัฐบาล, 22 เมษายน 2568 – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองล่าสุด โดยเฉพาะกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) และความสัมพันธ์ภายในพรรคร่วมรัฐบาล. นายภูมิธรรม ชี้แจงว่า การปรับ ครม. ถือเป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรีโดยสมบูรณ์ หากนายกรัฐมนตรีเห็นว่ารัฐมนตรีคนใดไม่เหมาะสม ก็เป็นสิทธิ์ที่จะพิจารณาปรับเปลี่ยน ซึ่งหากเป็นโควตาของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใด ก็จะต้องมีการหารือและเคลียร์กันเองภายในพรรคนั้นๆ. อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรม ยืนยันว่า

เปิดปมร้อน! ‘มหาดไทย’ เป้าหมายสำคัญในการปรับ ครม. เพื่อไทยกดดันภูมิใจไทย?

กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง และจุดที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษในขณะนี้ หนีไม่พ้น ‘กระทรวงมหาดไทย’ ซึ่งถือเป็นกระทรวงสำคัญที่เป็นโควตาหลักของพรรคภูมิใจไทย ท่ามกลางความตึงเครียดที่ปรากฏขึ้นระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย นักวิเคราะห์ทางการเมืองชี้ว่า แม้พรรคภูมิใจไทยจะมีจำนวน ส.ส. ถึง 69 เสียง แต่ในบริบทของรัฐบาลปัจจุบันที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ และยังคงผนึกกำลังอย่างเหนียวแน่นกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ โดยเฉพาะพรรคอันดับ 3 อย่างพรรครวมไทยสร้างชาติที่มี 36 เสียง และมีความสัมพันธ์อันดีกับพรรคเพื่อไทย ส่งผลให้พรรคภูมิใจไทยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างโดดเดี่ยว สถานการณ์นี้ทำให้นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่า พรรคภูมิใจไทยไม่มีอำนาจต่อรองที่เหนือกว่าพรรคเพื่อไทยอย่างมีนัยสำคัญ

สมศักดิ์ เทพสุทิน ตอบโพล ปรับ ครม. ย้ำอำนาจนายกฯ ปัดไม่รู้ข่าวแลกกระทรวง มหาดไทย-สาธารณสุข

กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และแกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน หรือ นิด้าโพล ที่ระบุว่าประชาชนส่วนใหญ่อยากให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายสมศักดิ์ กล่าวถึงผลโพลดังกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่สามารถทำได้ในระบอบประชาธิปไตย และสะท้อนให้เห็นถึงความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งในประเทศเสรีเช่นประเทศไทย ประชาชนมีสิทธิ์ที่จะมีความคิดเห็นที่หลากหลาย และจะเชื่อหรือไม่เชื่อในผลโพล ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม ในประเด็นเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี

อนุสรณ์ ย้ำอำนาจปรับ ครม. อยู่ที่ ‘นายกฯ แพทองธาร’ ลั่น ‘เพื่อไทย’ พร้อมซัพพอร์ตทุกการตัดสินใจ ปัดข่าวขอ ‘มหาดไทย’ คืน

กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีการคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ปี 2569 ภายหลังจากการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 แล้วเสร็จ นายอนุสรณ์ กล่าวอย่างชัดเจนว่า ขอเน้นย้ำว่าอำนาจในการปรับ ครม. ทั้งหมดนั้นเป็นของ

วิสุทธิ์ ไชยณรุณ เผยไม่รู้ดีลแลกเก้าอี้ ‘เพื่อไทย-ภูมิใจไทย’ โยนอำนาจปรับ ครม. ให้นายกฯ เชื่อประชาชนไม่ค้าน ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นร้อนทางการเมืองหลายเรื่อง โดยเฉพาะกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) และความคืบหน้าของนโยบายสำคัญของรัฐบาล นายวิสุทธิ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน 2569 หลังการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณเสร็จสิ้น ว่าตนได้รับทราบข่าวนี้จากสื่อมวลชนเช่นกัน แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ในส่วนของพรรคเพื่อไทยเองนั้น ยังไม่มีการเคลื่อนไหวหรือหารือกันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องการปรับ ครม. เนื่องจากทุกคนเข้าใจตรงกันว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจและดุลยพินิจของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

สส.เพื่อไทย ย้ำยังไม่คุยเรื่อง ‘ปรับ ครม.’ ชี้เป็นอำนาจ ‘นายกฯ’ แต่เพียงผู้เดียว

กรุงเทพฯ – วันที่ 19 เมษายน 2568 ความเคลื่อนไหวทางการเมืองเกี่ยวกับกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังคงได้รับความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทย ซึ่ง สส.ของพรรคได้ออกมาให้ความเห็นถึงประเด็นนี้ โดยยืนยันว่าในระดับ สส. ยังไม่มีการหารืออย่างเป็นทางการ แต่เชื่อมั่นในการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้มีอำนาจเต็ม นายสุทิน คลังแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึงประเด็นกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่า ในส่วนของ

“ภูมิธรรม” แจงปมคดี “พีช สมิทธิพัฒน์” ยัน “ทักษิณ” ร่วมงานตามปกติ พร้อมเผยแผนยุทธศาสตร์ไฟใต้

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 18 เมษายน 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล กรณีโฆษกพรรคพลังประชารัฐแสดงความกังวลกรณีคดี นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช ลูกชายนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ นายกเบี้ยว เนื่องจากปรากฏภาพมีความสนิทสนมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.แพทองธาร

ภูมิธรรมแจงปมคดี ‘พีช’ ลูกนายกเบี้ยว ยันทักษิณร่วมงานตามปกติ อย่าจับแพะชนแกะ

เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) แสดงความกังวลกรณีคดีนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือพีช ลูกชายนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยว เนื่องจากปรากฏภาพมีความสนิทสนมกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรมกล่าวว่า “เรื่องนี้ต้องแยกออกจากกัน ความสัมพันธ์ส่วนบุคคลก็เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องกฎหมายก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย ในกรณีที่กฎหมายมีอยู่และภาพลักษณ์ที่เกิดขึ้น

ประธานวิปรัฐบาลเชื่อนายกฯบริหารความขัดแย้งพรรคร่วมรัฐบาลได้ หลังปมเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลจากกรณีนายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศไม่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรว่า เป็นเรื่องที่พรรคภูมิใจไทยต้องไปเคลียร์กันเอง โดยย้ำว่านายกรัฐมนตรีสามารถบริหารความขัดแย้งนี้ได้ ด้านนายอดิศร เพียงเกษ สส.พรรคเพื่อไทย มองว่าสถานการณ์การเมืองหลังสงกรานต์น่าจะดีขึ้น ขณะที่นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีกลุ่มจงใจบิดเบือนข้อมูลโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยยืนยันว่าโครงการนี้มีมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลประยุทธ์ ส่วนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ

สงครามจี้รัฐบาลเร่งชี้แจงโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หวั่นถูกบิดเบือนจนพัง

วันที่ 16 เมษายน 2568 นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา หลายกลุ่มจงใจบิดเบือน พูดความจริงไม่หมดและใส่ร้ายรัฐบาล กล่าวหาโจมตีด้วยความเท็จว่าโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นโครงการบ่อนกาสิโน โดยไม่สนใจในข้อเท็จจริง โจมตีด้วยอคติและอิจฉากลัวว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับความนิยมหากสามารถดึงเงินลงทุนหลักแสนล้านจะช่วยยกระดับเศรษฐกิจไทยได้อย่างแน่นอน โครงการสถานบันเทิงครบวงจร คือเขตพัฒนาพิเศษเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวของครอบครัวระดับโลก นำเสนอประสบการณ์หลากหลายรูปแบบ มุ่งดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง ส่วนที่เป็นกาสิโนมีเพียงไม่ถึงร้อยละ 10 จากทั้งโครงการ นายสงคราม กล่าวด้วยว่า รัฐบาลมีแผนเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

xee4.com อัพเดทข่าวสารรวดเร็ว ครบทุกประเด็น

BREAKING NEWS