Tag: ตึกถล่ม

ดีเอสไอเร่งสอบคดีปลอมลายเซ็นวิศวกรคุมงานก่อสร้างตึก สตง. ถล่ม เผยผู้ออกแบบอายุ 85 ปี

กรณีคดีปลอมแปลงเอกสารและลายเซ็นวิศวกรควบคุมงานก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งถล่มลงมาเมื่อเร็วๆ นี้ กำลังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยล่าสุดมีการเปิดเผยว่า ผู้ออกแบบอาคารดังกล่าวมีอายุถึง 85 ปี เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา ดีเอสไอได้เชิญนายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ซึ่งถูกแอบอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้างอาคาร สตง. เข้าให้ข้อมูลในฐานะพยาน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เผยความคืบหน้าเหตุตึก สตง. ถล่ม คาดพบผู้ประสบภัยเพิ่มในชั้น 24-29

วันที่ 14 เมษายน 2568 เวลา 11.00 น. – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงความคืบหน้าการค้นหาผู้ประสบภัยในเหตุตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม โดยระบุว่าขณะนี้สามารถลดความสูงของซากอาคารจากเดิม 26 เมตร เหลือ 20.5 เมตรแล้ว ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เปิดเผยว่า “จากการทำงานล่าสุด เราคาดว่าจุดที่อาจพบผู้ประสบภัยจำนวนมากอยู่ที่ระหว่างชั้น

ชัชชาติเผยความคืบหน้ากู้ภัยตึกถล่ม ลดความสูงซากตึกเหลือ 20 เมตร พบร่างคนงานเพิ่ม

เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 14 เมษายน 2568 ที่จุดเกิดเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้าการกู้ภัยว่า ขณะนี้สามารถลดความสูงของซากอาคารลงเหลือ 20.5 เมตร จากเดิม 26 เมตร ส่งผลให้พบผู้ประสบภัยเพิ่มมากขึ้น ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า จุดที่คาดว่าจะพบคนงานจำนวนมากอยู่ที่ชั้น 24-29

ชัชชาติ เผยไม่พบสัญญาณชีวิตจุดพบแสงไฟ คาดเป็นกระจกสะท้อน เร่งรื้อซากตึก สตง. กว่า 40%

เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2568 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. ได้เดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม นายชัชชาติเปิดเผยว่า การค้นหายังคงดำเนินต่อไป โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้พยายามเปิดพื้นที่ถึงจุดที่มีรายงานว่าพบแสงไฟ ขณะนี้ขุดลงไปลึกประมาณ 3 เมตรแล้ว แต่เมื่อนำสุนัขค้นหา (K9) และเครื่องสแกนเข้าไปตรวจสอบ ก็ไม่พบสัญญาณชีวิตหรือสิ่งของใดๆ

ดีเอสไอเร่งสางคดีตึก สตง. ถล่ม ตามจ่อเส้นเงินถึง 2 บอสจีน เจ้าหน้าที่เขตจตุจักรเร่งขุดโพรงค้นหาผู้สูญหาย

วันที่ 13 เม.ย.2568 ที่จุดเกิดเหตุอาคารก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ใหม่ถล่ม เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เครื่องจักรหนักขุดหาและทำลายสิ่งกีดขวาง โดยเฉพาะโซน B และ C ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร เข้าเก็บหลักฐานบางส่วนที่เป็นเหล็ก และซีเมนต์ นำไปตรวจสอบเพิ่มเติม โดยยอดผู้ประสบภัยวันนี้เวลา 10.00 น. มีผู้เสียชีวิต 37

กู้ภัยเร่งลำเลียงศพผู้เคราะห์ร้ายใต้ซากตึกถล่มในเขตจตุจักร ยอดเสียชีวิตล่าสุด 35 ราย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งปฏิบัติการลำเลียงศพผู้เคราะห์ร้ายที่ติดอยู่ใต้ซากตึกก่อสร้างที่ถล่มในเขตจตุจักรมาตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา โดยศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักรรายงานยอดผู้สูญหายล่าสุด ณ เวลา 16.00 น. ของวันที่ 12 เมษายน พบว่ามีผู้ประสบเหตุทั้งหมด 103 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิตที่นำศพออกมาแล้ว 35 ราย และยังคงมีผู้สูญหายที่อยู่ระหว่างการค้นหาอีก 59 ราย เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อตึกก่อสร้างสูงหลายชั้นในพื้นที่เขตจตุจักรเกิดการถล่มลงมาอย่างฉับพลัน ส่งผลให้มีผู้คนจำนวนมากถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายหน่วยงานได้ระดมกำลังเข้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่ตั้งแต่เกิดเหตุ โดยมีการใช้เครื่องมือหนักและสุนัขดมกลิ่นเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตและผู้เสียชีวิต “เรายังคงทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อค้นหาผู้สูญหายที่เหลืออยู่

เหตุตึก สตง. ถล่ม ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 35 ศพ ยังสูญหายอีก 59 ราย ทีมกู้ภัยเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพัง

เหตุตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มยังคงเป็นข่าวที่ทุกคนจับตามอง ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 35 ศพ ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีก 59 ราย ทีมกู้ภัย USAR ยังคงระดมกำลังค้นหาผู้รอดชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในโซนบีที่พบสัญญาณแสงไฟจากมือถือ แต่ยังไม่สามารถเข้าถึงจุดดังกล่าวได้เนื่องจากอุปสรรคจากซากอาคารที่หนักและหนา เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงอัดอากาศเข้าไปในโพรงเพื่อช่วยผู้รอดชีวิตที่อาจยังมีชีวิตอยู่ ขณะที่ทีมสอบสวนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตำรวจยังคงเก็บหลักฐานรอบที่ 3 เพื่อหาความผิดในหลายประเด็น ทั้งเรื่องนอมินี ความผิดตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และคดีฝุ่นแดง 4

ดีเอสไอเร่งสอบปมตึก สตง.ถล่ม ตรวจซีเมนต์ตกสเปค-ลุยเส้นเงินนอมินี

วันที่ 12 เมษายน 2568 – ที่เกิดเหตุอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มระหว่างก่อสร้าง พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงความคืบหน้าการสอบสวน 3 ปมสำคัญ 3 คดีสำคัญที่ดีเอสไอเร่งสอบสวน 1. คดีนอมินี: ดำเนินการไปแล้ว 50% กำลังขยายผลตรวจสอบการเสนอราคาและเส้นทางการเงิน โดยเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง 2. ปมซีเมนต์ตกสเปค:

สลด! กู้ภัยทยอยนำชิ้นส่วนมนุษย์ออกจากซากตึกสตง.ถล่ม ยอดเสียชีวิตพุ่ง 32 ศพ

เมื่อเวลา 14.30 น. ของวันที่ 12 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการทำงานอย่างเร่งด่วนของทีมกู้ภัยบริเวณอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่มลงมา โดยตลอดทั้งวันมีการนำชิ้นส่วนมนุษย์ออกมาจากซากปรักหักพังทั้งหมด 3 รอบ จุดที่น่ากังวลที่สุดคือบริเวณโซน B ซึ่งทีมกู้ภัยรายงานว่าพบแสงไฟจากมือถือ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถค้นพบผู้ส่งสัญญาณดังกล่าวได้ ระหว่างปฏิบัติการ เครื่องจักรหนักต้องหยุดทำงานชั่วคราวเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปค้นหาผู้สูญหายในพื้นที่เสี่ยงได้ นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ให้ข้อมูลว่า ทีมงานได้ขุดลงไปถึงฐานรากของตึกแล้ว

พบแสงไฟมือถือใต้ซากตึก สตง.ถล่ม กู้ภัยเร่งเจาะโพรงช่วยชีวิต ด้านดีเอสไอยึดเอกสารบริษัทก่อสร้างเพิ่ม

เกิดความหวังใหม่ในการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุตึก สตง. ถล่ม เมื่อทีมกู้ภัยพบแสงไฟจากโทรศัพท์มือถือในซากอาคารโซน B ล่าสุดเร่งเจาะโพรงลึก 3 เมตร เพื่อตรวจสอบ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 27 ศพ และดีเอสไอเข้าตรวจค้นบริษัทก่อสร้างอีกครั้ง เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 11 เม.ย. ทีมกู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษมพบแสงไฟจากสมาร์ทโฟนในซากตึกบริเวณโซน B ใช้กล้องอินฟราเรดสแกนพบสัญญาณร่างกายมนุษย์ ห่างจากพื้นผิว 3 เมตร

xee4.com อัพเดทข่าวสารรวดเร็ว ครบทุกประเด็น

BREAKING NEWS