Tag: ดีเอสไอ

วุฒิสภาสีน้ำเงินเตรียมต้านร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ พร้อมเผชิญคดีฮั้วสว.ระทึกเดือนพฤษภาคม

หลังจากรัฐบาลเลื่อนร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่นำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนฯ ในสมัยประชุมที่ผ่านมา โดยเลื่อนไปอีก 3 เดือน คาดว่าจะพิจารณาในสมัยประชุมหน้าประมาณเดือนกรกฎาคมนี้ ขณะเดียวกัน ฝ่ายวุฒิสภาเริ่มแสดงท่าทีต่อต้านร่างกฎหมายนี้อย่างชัดเจน ด้วยการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร พร้อมส่งสัญญาณว่า หากร่างกฎหมายนี้เข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา คงไม่ผ่านง่ายๆ ท่าทีของสว.ชุดนี้ไม่น่าแปลกใจ เนื่องจากถูกเรียกขานว่า “สว.สีน้ำเงิน” ที่มีความขัดแย้งกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกัน สถานะของสว.ชุดนี้กำลังอยู่ในภาวะเสี่ยง หลังดีเอสไอรุกสอบสวนคดีฮั้วสว. ในหลายข้อหารวมถึงความผิดต่อความมั่นคงแห่งรัฐ คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) มีมติเมื่อวันที่ 6

ดีเอสไอเร่งสืบสวนคดี ‘ตึก สตง. ถล่ม’ ตรวจสอบ 4 สัญญาสำคัญ ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2568 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่ถล่ม เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง 2 แห่ง ในคดีนอมินี และประเด็นการปลอมแปลงลายเซ็นวิศวกรระดับสูง พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า การทำงานครั้งนี้เป็นการบูรณาการของรัฐบาล โดยมีผู้ว่าฯ กทม.เป็นหลักในการดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่วนคดีอาญามีตำรวจนครบาลดูแลในความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ขณะที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ 2

ดีเอสไอรวบโบรกเกอร์คนสุดท้ายคดีหมอบุญ หลังหลบหนีไปต่างประเทศ

เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 16 เม.ย. 68 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สามารถควบคุมตัว น.ส.กชพร (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี โบรกเกอร์คนสุดท้ายผู้ต้องหาในคดีหมอบุญ วนาสิน ได้สำเร็จ หลังผู้ต้องหาหลบหนีไปต่างประเทศนานนับเดือน โดยผู้ต้องหาถูกกล่าวหาร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน คดีนี้มีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 1 หมื่น 6 พันล้านบาท

ดีเอสไอเร่งสอบคดีปลอมเอกสารก่อสร้าง สตง.ถล่ม ชี้เป็นเหตุสำคัญที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต

นายสมเกียรติ ชูแสงสุข วิศวกรที่ถูกปลอมลายเซ็นแอบอ้างชื่อเป็นผู้จัดการโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งถล่มลงมาจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ได้เข้าให้การต่อพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้ว โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมรับฟังการสอบสวนด้วย จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า มีการปลอมแปลงเอกสารและลายเซ็นของนายสมเกียรติ เพื่อใช้ในการอนุมัติงานก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้อาคารเกิดการถล่มลงมาในช่วงระหว่างการก่อสร้าง เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 20 ราย “นี่เป็นคดีสำคัญที่ต้องเร่งสอบสวนให้ชัดเจน” พ.ต.อ.ทวี

สมเกียรติ ยันโดนแอบอ้างชื่อ-ปลอมลายเซ็นในคดีตึก สตง.ถล่ม พร้อมชี้เป็นผู้เสียหาย

เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 15 เม.ย. 2568 นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่างวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ซึ่งถูกแอบอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นเป็นผู้ควบคุมงานกิจการร่วมค้า PKW ที่เป็นคู่สัญญาผู้ควบคุมงานก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เดินทางเข้าพบคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า การสอบสวนครั้งนี้มุ่งหาสาเหตุที่แท้จริงของการถล่มของตึก สตง. ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 44 ราย

ดีเอสไอเร่งสอบคดีปลอมลายเซ็นวิศวกรคุมงานก่อสร้างตึก สตง. ถล่ม เผยผู้ออกแบบอายุ 85 ปี

กรณีคดีปลอมแปลงเอกสารและลายเซ็นวิศวกรควบคุมงานก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งถล่มลงมาเมื่อเร็วๆ นี้ กำลังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยล่าสุดมีการเปิดเผยว่า ผู้ออกแบบอาคารดังกล่าวมีอายุถึง 85 ปี เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา ดีเอสไอได้เชิญนายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ซึ่งถูกแอบอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้างอาคาร สตง. เข้าให้ข้อมูลในฐานะพยาน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม

ทีมกู้ภัยค้นหาผู้สูญหายจากอาคาร สตง.ถล่ม พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ศพ รวมยอด 37 ศพ

ความคืบหน้าการปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่กำลังก่อสร้างถล่ม เข้าสู่วันที่ 17 เจ้าหน้าที่กู้ภัย USAR จากหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. กองทัพบก กองทัพอากาศ ตำรวจพลร่ม รวมถึงอาสาสมัครจากมูลนิธิต่างๆ กระจายกำลังทำลายสิ่งกีดขวางในซากตึกทุกโซนพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณโซนบีและโซนซีด้วยเครื่องจักรกลหนัก สลับกับทีมค้นหาเดินเท้าหาร่างผู้เสียชีวิต ตลอดทั้งคืนวันที่ 12 เม.ย. ต่อเนื่องเวลา 08.00 น.วันที่ 13

ดีเอสไอเร่งสางคดีตึก สตง. ถล่ม ตามจ่อเส้นเงินถึง 2 บอสจีน เจ้าหน้าที่เขตจตุจักรเร่งขุดโพรงค้นหาผู้สูญหาย

วันที่ 13 เม.ย.2568 ที่จุดเกิดเหตุอาคารก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ใหม่ถล่ม เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เครื่องจักรหนักขุดหาและทำลายสิ่งกีดขวาง โดยเฉพาะโซน B และ C ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร เข้าเก็บหลักฐานบางส่วนที่เป็นเหล็ก และซีเมนต์ นำไปตรวจสอบเพิ่มเติม โดยยอดผู้ประสบภัยวันนี้เวลา 10.00 น. มีผู้เสียชีวิต 37

เหตุตึก สตง. ถล่ม ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 35 ศพ ยังสูญหายอีก 59 ราย ทีมกู้ภัยเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพัง

เหตุตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มยังคงเป็นข่าวที่ทุกคนจับตามอง ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 35 ศพ ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีก 59 ราย ทีมกู้ภัย USAR ยังคงระดมกำลังค้นหาผู้รอดชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในโซนบีที่พบสัญญาณแสงไฟจากมือถือ แต่ยังไม่สามารถเข้าถึงจุดดังกล่าวได้เนื่องจากอุปสรรคจากซากอาคารที่หนักและหนา เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงอัดอากาศเข้าไปในโพรงเพื่อช่วยผู้รอดชีวิตที่อาจยังมีชีวิตอยู่ ขณะที่ทีมสอบสวนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตำรวจยังคงเก็บหลักฐานรอบที่ 3 เพื่อหาความผิดในหลายประเด็น ทั้งเรื่องนอมินี ความผิดตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และคดีฝุ่นแดง 4

ดีเอสไอเร่งสอบปมตึก สตง.ถล่ม ตรวจซีเมนต์ตกสเปค-ลุยเส้นเงินนอมินี

วันที่ 12 เมษายน 2568 – ที่เกิดเหตุอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มระหว่างก่อสร้าง พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงความคืบหน้าการสอบสวน 3 ปมสำคัญ 3 คดีสำคัญที่ดีเอสไอเร่งสอบสวน 1. คดีนอมินี: ดำเนินการไปแล้ว 50% กำลังขยายผลตรวจสอบการเสนอราคาและเส้นทางการเงิน โดยเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง 2. ปมซีเมนต์ตกสเปค:

xee4.com อัพเดทข่าวสารรวดเร็ว ครบทุกประเด็น

BREAKING NEWS