Tag: กระทรวงศึกษาธิการ

กสม. ชงมาตรการเข้ม! เตือนครูทำคอนเทนต์เด็ก สุ่มเสี่ยงละเมิดสิทธิ์ – เสี่ยงโดนเพิกถอนใบอนุญาต

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกข้อเสนอแนะสำคัญถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังพบปัญหาการนำเด็กไปทำคอนเทนต์ออนไลน์โดยครูและบุคลากรทางการศึกษา ชี้เข้าข่ายละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวและอาจนำไปสู่ภัยออนไลน์ในระยะยาว พร้อมเสนอให้พิจารณาบทลงโทษถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หากพบการกระทำผิด ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย แล้วว่าเป็นข่าวจริง เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ในการแถลงข่าวเด่นประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 14/2568 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้หยิบยกประเด็นปัญหาสำคัญด้านสิทธิเด็กขึ้นมาหารือ นั่นคือกรณีที่เด็กถูกนำไปใช้เป็น ‘คอนเทนต์’ ในสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยเฉพาะโดยบุคคลใกล้ชิดอย่างครูและบุคลากรทางการศึกษา

ผู้ปกครองเฮ! รมว.ศธ. ย้ำยืดหยุ่น ‘ชุดลูกเสือ’ ก่อนเปิดเทอม มอบโรงเรียนใช้ดุลยพินิจ ลดภาระ

กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีประเด็นสำคัญที่น่าจับตา โดยเฉพาะเรื่องการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน และการคลี่คลายข้อกังวลเรื่องการแต่งกายด้วยเครื่องแบบลูกเสือ พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า ตนได้รายงานผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่จังหวัดนครพนม ซึ่งได้มีการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณของกระทรวงต่างๆ และการติดตามงบประมาณเพื่อพัฒนาการศึกษา รวมถึงการที่ ครม. ได้มีมติเห็นชอบการออกสลากการกุศล

สลช.เผยความคืบหน้า ‘กฎกระทรวงชุดลูกเสือ’ ถกกฤษฎีกา ชี้ใช้เวลา เตรียมออกแนวปฏิบัติชั่วคราว

กรุงเทพฯ, 29 เมษายน 2568 – ดร.วรัท พฤกษาทวีกุล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะเลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ (สลช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการจัดทำร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยเครื่องแบบและการแต่งกายลูกเสือ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ที่ต้องการเพิ่มความยืดหยุ่นและลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครอง การจัดทำร่างกฎกระทรวงดังกล่าวได้รับความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568

ศธ.ย้ำชัด ไม่ยกเลิกชุดลูกเสือ เนตรนารี แค่เพิ่มทางเลือก ลดภาระผู้ปกครอง ให้โรงเรียนพิจารณา

กรุงเทพฯ – จากประเด็นเรื่องเครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารี ที่มีการพูดถึงอย่างกว้างขวาง ล่าสุด นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกมายืนยันชัดเจนว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ไม่ได้มีนโยบายยกเลิกชุดลูกเสือ เนตรนารี แต่อย่างใด นายสุรศักดิ์ ชี้แจงว่า สิ่งที่ ศธ. กำลังดำเนินการอยู่ คือการปรับปรุงและแก้ไขกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเครื่องแบบและการแต่งกายของลูกเสือและเนตรนารี โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่ม “ทางเลือก” ในการแต่งกายให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่ได้เป็นการบังคับให้ยกเลิกชุดแบบเดิม

ผู้ปกครองหนุนยกเลิกชุดลูกเสือลดภาระค่าใช้จ่าย ด้านร้านค้าโอดกระทบหนัก หลัง ศธ. จ่อประกาศยกเว้น

กระทรวงศึกษาธิการ โดย สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ (สลช.) เตรียมประกาศยกเว้นเครื่องแบบและการแต่งกายลูกเสือของสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) อย่างเป็นทางการภายในเดือนเมษายนนี้ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครอง และให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ รวมถึงสภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ นโยบายนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ผู้ปกครองกำลังเตรียมซื้อชุดนักเรียนให้บุตรหลานเพื่อรับการเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2568 ในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ บรรยากาศที่ร้านจำหน่ายชุดนักเรียนในช่วงนี้ยังคงไม่คึกคักเท่าที่ควร ส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะมารอซื้อในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม ประเด็นการยกเลิกชุดลูกเสือได้กลายเป็นที่พูดถึงและมีปฏิกิริยาที่หลากหลาย นางน้ำอ้อย อริยจิราพงศ์ ผู้ปกครองรายหนึ่ง กล่าวให้ความเห็นว่า

ผู้ปกครองอ่วม! เปิดเทอมใหม่ปี 2568 ค่าใช้จ่ายพุ่ง 2.8 หมื่นบาท ‘นักวิชาการ’ ชี้ ‘เรียนฟรีทิพย์’ เด็กเสี่ยงหลุดระบบพุ่ง จี้ ศธ.แก้ด่วน

กรุงเทพฯ – นายสมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยถึงสถานการณ์การศึกษาไทยที่น่าเป็นห่วงรับการเปิดเทอมใหม่ปีการศึกษา 2568 ในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยระบุว่าสถานการณ์ปัจจุบันค่อนข้างวิกฤตและท้าทายอย่างยิ่งสำหรับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายสมพงษ์ ชี้ว่า ขณะนี้ผู้ปกครองต้องเตรียมตัวและเตรียมเงินเพิ่มมากขึ้น จากการสำรวจพบว่าค่าใช้จ่ายในการเตรียมตัวให้บุตรหลานเข้าสู่ระบบการศึกษาในช่วงเปิดเทอมใหม่นี้ เพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่าตัว หรือสูงถึงประมาณ 25,000 – 28,000 บาทต่อคนต่อปี “ดังนั้น เรื่องของ ‘เรียนฟรี’

ศธ. เตือน! ครู 1.8 หมื่นราย “ตั๋วหมดอายุ” สพฐ. มากสุด จี้ต่อใบอนุญาตฯ ก่อนเปิดเทอม 16 พ.ค. เสี่ยงคุก-ปรับ หากฝ่าฝืน

กรุงเทพฯ – ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ออกมาแจ้งเตือนครูทั่วประเทศกว่า 18,000 ราย ที่ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหมดอายุตั้งแต่ปลายปี 2567 ให้เร่งดำเนินการต่ออายุโดยด่วน ก่อนถึงกำหนดเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 ในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ เน้นย้ำ หากฝ่าฝืนทำการสอนโดยไม่มีใบอนุญาตฯ ที่ถูกต้อง จะต้องรับโทษตามกฎหมาย ทั้งจำคุกและปรับ พร้อมทั้งโรงเรียนต้นสังกัดก็อาจมีความผิดร่วมด้วย นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ

ส.บ.ม.ท. ค้านใช้โอเน็ต 100% สอบเข้า ม.1/ม.4 หวั่นกวดวิชาพุ่ง-เหลื่อมล้ำสูง แนะใช้แค่บางส่วน

กรุงเทพฯ – จากกรณีที่ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะทำงานเรื่องการบริหารจัดการสอบทุกรูปแบบ เตรียมเสนอปรับวิธีการสอบเข้าเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ ม.4 โดยมีแนวคิดนำผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต (O-NET) มาปรับใช้เป็นข้อสอบกลางในการคัดเลือกนักเรียน เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายณรินทร์ ชำนาญดู นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) ได้แสดงความเห็นต่อแนวคิดดังกล่าว โดยกล่าวว่า โดยหลักการแล้วตนเห็นด้วยกับการใช้คะแนนโอเน็ตเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณารับนักเรียนเข้าเรียนต่อในระดับชั้น

รองโฆษกรัฐบาลเตือนครู 2.5 หมื่นราย เร่งต่ออายุ ‘ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ’ ก่อนเปิดเทอมใหม่ คุรุสภาคุมเข้มทั่วไทย

กรุงเทพฯ – วันที่ 19 เมษายน 2568 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของกระทรวงศึกษาธิการและคุรุสภา กำลังเร่งยกระดับมาตรฐานวิชาชีพครูทั่วประเทศ โดยเน้นย้ำให้ครูผู้สอนทุกคนต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” ที่ถูกต้องตามกฎหมาย มิฉะนั้นจะไม่สามารถทำการสอนในสถานศึกษาได้เมื่อเปิดภาคเรียนใหม่. ข้อมูลล่าสุดจากคุรุสภาชี้ว่า ยังมีครูจำนวนมากถึง กว่า 25,000 ราย ทั่วประเทศ ที่ใบอนุญาตฯ หมดอายุหรือยังไม่ได้ดำเนินการต่ออายุ ซึ่งถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนเริ่มต้นภาคเรียนที่

ศธ. เสนอใช้โอเน็ตเป็นข้อสอบกลางคัดเลือกนักเรียน ม.1-ม.4 ตั้งศูนย์สอบออนไลน์ ลดความเหลื่อมล้ำ

17 เม.ย. 68 – นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงแนวทางการปฏิรูประบบสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยเสนอให้ใช้ข้อสอบโอเน็ตเป็นข้อสอบกลาง พร้อมจัดตั้งศูนย์สอบออนไลน์ในภูมิภาค เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและภาระของนักเรียนและผู้ปกครอง แนวคิดนี้เกิดขึ้นหลังคณะทำงานด้านการบริหารจัดการสอบทุกรูปแบบ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสนามสอบเมื่อวันที่ 5-6 เมษายนที่ผ่านมา และพบปัญหาด้านมาตรฐานข้อสอบที่ไม่สม่ำเสมอระหว่างโรงเรียน รวมถึงความยากลำบากของนักเรียนที่ต้องเดินทางมาสอบในกรุงเทพฯ “เราพบว่าบางจังหวัดอย่างนนทบุรีมีการออกข้อสอบร่วมกันระหว่างโรงเรียนในจังหวัด ซึ่งช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้ดี ในขณะที่บางพื้นที่ยังให้โรงเรียนออกข้อสอบเอง ทำให้เกิดคำถามเรื่องความโปร่งใส”

xee4.com อัพเดทข่าวสารรวดเร็ว ครบทุกประเด็น

BREAKING NEWS