สว.นันทนา บี้ ผู้ถูกหมายเรียกคดีฮั้วเลือก สว. แสดงสปิริตหยุดปฏิบัติหน้าที่เอง ชี้หวั่นงานวุฒิสภาสะดุด
กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนร่วมระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เริ่มดำเนินการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องในคดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ไปปิดไว้ที่หน้าบ้านของบุคคลเหล่านั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. ซึ่งได้รับฉายาว่าเป็น สว.พันธุ์ใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์แสดงความเห็นต่อกระบวนการดังกล่าว โดยระบุว่า การที่ กกต. และ ดีเอสไอ ได้เริ่มดำเนินการออกหมายเรียกถือเป็นไปตามกระบวนการ แม้ส่วนตัวจะมองว่าค่อนข้างล่าช้า เพราะการได้มาซึ่ง สว. ชุดปัจจุบันนั้นเกิดขึ้นมานานถึง 10 เดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม การที่กระบวนการได้เริ่มต้นขึ้นและเป็นการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการระหว่าง 3 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กกต., ดีเอสไอ, และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจในการตรวจสอบ ถือเป็นเรื่องที่ดี
น.ส.นันทนา กล่าวต่อว่า เมื่อกระบวนการตรวจสอบได้เริ่มต้นแล้ว ประชาชนที่เฝ้ารอคอยคำตอบมาตลอดก็จะได้คลายความสงสัยลงไปได้บ้าง ว่า สว. กลุ่มใหญ่ ซึ่งเป็นที่จับตามองกันอย่างกว้างขวางนั้น ได้มาด้วยกระบวนการเช่นไร
เมื่อถูกถามถึงความเคลื่อนไหวหรือการพูดคุยภายในกลุ่ม สว. โดยเฉพาะกลุ่มใหญ่ น.ส.นันทนา ได้หัวเราะพร้อมกล่าวว่า โดยปกติแล้วตนไม่ได้พูดคุยกับ สว. กลุ่มใหญ่อยู่แล้ว จึงไม่ทราบว่าพวกเขามีความเคลื่อนไหวอย่างไร หรือได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้หรือไม่
ประเด็นที่น่าสนใจคือมุมมองของ น.ส.นันทนา ต่อความเงียบของผู้นำวุฒิสภา ทั้งประธานและรองประธานวุฒิสภา ในสถานการณ์เช่นนี้ โดยเธอตั้งข้อสังเกตว่า ตนเองยังไม่เห็นความชัดเจนว่าหมายเรียกนั้นได้ไปถึงประธานวุฒิสภาหรือรองประธานวุฒิสภาด้วยหรือไม่ เนื่องจากชื่อที่ปรากฏในสื่อเบื้องต้นมีเพียง 6 คน แต่บางสำนักข่าวก็ระบุว่ารวมถึงผู้นำวุฒิสภาด้วย
น.ส.นันทนา เน้นย้ำว่า หากเป็นเช่นที่สื่อบางสำนักรายงานว่าผู้นำวุฒิสภาถูกออกหมายเรียกด้วยนั้น โดยมารยาททางการเมืองแล้ว ผู้ที่ถูกหมายเรียกแม้ว่าจะยังไม่มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ แต่ก็ควรแสดงสปิริตหรือมารยาททางการเมืองด้วยการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของตนเองก่อน เพราะตำแหน่งประมุขของฝ่ายนิติบัญญัตินั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นผู้ควบคุมการลงมติและการประชุม ในขณะที่ตัวเองกำลังถูกตรวจสอบและมีมูลถึงขั้นถูกเรียกไปให้ข้อมูล
“กระบวนการตรวจสอบมันเดินมาถึงแล้ว ฉะนั้นถึงแม้ยังไม่มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่โดยมารยาทแล้วก็ควรที่จะหยุดปฏิบัติหน้าที่เอง ตำแหน่งนี้มีความหมายและมีความสำคัญต่อฝ่ายนิติบัญญัติมากค่ะ” น.ส.นันทนา กล่าวย้ำ
เมื่อถามถึงผลกระทบต่องานของวุฒิสภาภายหลังจากนี้ น.ส.นันทนา กล่าวว่า ต้องรอดูว่าจำนวนผู้ที่ถูกเรียกในล็อตนี้มีทั้งหมดเท่าไหร่ และกระบวนการตรวจสอบจะใช้เวลานานเพียงใด หากใช้เวลานานจนเกินไป ย่อมมีผลทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของวุฒิสภาอาจสะดุดลงได้ ดังนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานที่ดำเนินการอยู่ ไม่ว่าจะเป็น กกต. หรือ ดีเอสไอ คงจะต้องเร่งดำเนินการให้รวดเร็ว เพื่อไม่ให้กระบวนการนิติบัญญัติในฝั่งวุฒิสภาต้องหยุดชะงัก
มีรายงานเพิ่มเติมจากแหล่งข่าวว่า ในล็อตแรกนี้ มี สว. ถูกออกหมายเรียกแล้วประมาณ 60 คน รวมถึง สว. คนดัง และมีชื่อของ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา และนายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ รองประธานวุฒิสภา รวมอยู่ด้วย ซึ่งต้องเข้าชี้แจงภายในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ โดยพบว่า สว.อลงกต วรกี เป็นหนึ่งในบุคคลกลุ่มแรกที่ได้รับหมายเรียก