“สุทิน” รมว.กลาโหม เปิดงานใหญ่ “สืบตำนานเลี้ยงบ้าน สานชีวิตกุดอ้ายลาย” มหาสารคาม ผสานวัฒนธรรม กีฬา ดันฟื้นฟูสู่แหล่งท่องเที่ยว

“สุทิน” รมว.กลาโหม เปิดงานใหญ่ “สืบตำนานเลี้ยงบ้าน สานชีวิตกุดอ้ายลาย” มหาสารคาม ผสานวัฒนธรรม กีฬา ดันฟื้นฟูสู่แหล่งท่องเที่ยว

มหาสารคาม, 8 พฤษภาคม 2567 – เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา บริเวณท่าฮ่องบ้าน (บ้านโจด) ริมกุดอ้ายลาย ตำบลกู่ทอง อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม ได้มีการจัดงานประเพณีครั้งสำคัญ “สืบตำนานเลี้ยงบ้าน สานชีวิตกุดอ้ายลาย” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุทิน คลังแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คนที่ 42 และเป็นชาวอำเภอเชียงยืน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมด้วย นายรัฐ คลังแสง หรือ “ส.ส.โก้” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย จังหวัดมหาสารคาม

งานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นที่เก่าแก่ รวมถึงเสริมสร้างความสมัครสมานสามัคคีในชุมชน โดยถือเป็นการนำแนวคิดซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ด้านวัฒนธรรมและประเพณีมาใช้ในการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ผ่านการนำเสนออัตลักษณ์อันโดดเด่นของชุมชนตำบลกู่ทอง ทั้งในมิติของความเชื่อ วิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น และศิลปวัฒนธรรมที่มีคุณค่า

ความหมายของชื่องานมีความลึกซึ้ง โดย “สืบตำนาน” หมายถึง การสืบสาน รักษา หรือฟื้นฟูเรื่องเล่าและวัฒนธรรมที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ส่วนคำว่า “เลี้ยงบ้าน” คือ พิธีกรรมทางจิตวิญญาณตามความเชื่อของชาวอีสาน เพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน หรือผีปู่ตา อันเป็นการแสดงความกตัญญู ขอขอบคุณ และขอพรให้ชุมชนอยู่เย็นเป็นสุข และคำว่า “สานชีวิต” สะท้อนถึงการเชื่อมโยง ต่อยอดวิถีชีวิตดั้งเดิมเข้ากับคนรุ่นใหม่ เพื่อให้วัฒนธรรมยังคงอยู่และปรับเข้ากับยุคสมัย

ภายหลังพิธีเปิด ดร.สุทิน คลังแสง พร้อมด้วย นายรัฐ คลังแสง ได้นำคณะผู้บริหารท้องถิ่น ข้าราชการ และประชาชนในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมเพื่อการฟื้นฟูธรรมชาติ อาทิ การปลูกต้นยางนา เพื่อเพิ่มความร่มรื่น และการปล่อยพันธุ์ปลาจำนวนกว่า 50,000 ตัว ลงในแหล่งน้ำกุดอ้ายลาย ซึ่งเป็นลำคลองสายหลัก เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูระบบนิเวศทางน้ำ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการทำประมงของชาวบ้านในอนาคต

ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมกีฬาเพื่อเสริมสร้างความสามัคคีในชุมชนอย่างคึกคัก ทั้งมหกรรมแข่งเรือของสามตำบล (กู่ทอง, หนองบัว, เหล่าบัวบาน) และการแข่งขันเรือมาราธอนระยะทาง 7 กิโลเมตร ไฮไลต์สำคัญคือการแข่งขันรถจักรยานยนต์วิบาก ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีนักแข่งดีกรีแชมป์ประเทศไทยอย่าง เชิดชาย พลดงนอก จากจังหวัดชัยภูมิ เข้าร่วมและคว้าแชมป์ในรุ่นมาสเตอร์ 30 ปีขึ้นไปไปครองได้สำเร็จ

นอกจากนี้ กิจกรรมทางวัฒนธรรมก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน อาทิ พิธีเลี้ยงศาลปู่ตา ซึ่งเป็นพิธีสำคัญในการขอพรและแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษ การรำบวงสรวงสุดอลังการ มหกรรมจุดบั้งไฟบวงสรวงกว่า 100 ลำ และปิดท้ายค่ำคืนด้วยมหรสพสมโภชจากคณะหมอลำชื่อดัง “สาวน้อยเพชรบ้านแพง” ที่มาสร้างความบันเทิงให้กับผู้เข้าร่วมงานนับพันคน

ดร.สุทิน คลังแสง เปิดเผยถึงความสำคัญของกุดอ้ายลายว่า เป็นแหล่งน้ำสายชีวิตที่มีความยาวถึง 9 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 8,000 ไร่ เป็นแหล่งน้ำสำหรับชาวบ้านในสองอำเภอสามตำบลกว่า 2,000 ครัวเรือนที่ใช้ในการเกษตรและการประมง ซึ่งกุดอ้ายลายอยู่ในสภาพที่ต้องการการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน ท่านจึงต้องการ “คืนชีวิต” ให้กับกุดอ้ายลาย ทั้งในมิติของการเกษตร การประมง และที่สำคัญคือการยกระดับพื้นที่นี้ให้กลายเป็น “มินิ สปอร์ต คอมเพล็กซ์” เพื่อรองรับกิจกรรมกีฬาหลากหลายประเภท พร้อมทั้งส่งเสริมให้มีตลาดน้ำ ตลาดปลา ตลาดผัก เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว (แลนด์มาร์ก) แห่งใหม่ของจังหวัดมหาสารคามในอนาคต

“วันนี้ผมมาทำให้กุดอ้ายลายกลับมามีชีวิตชีวา ผมนำกีฬามาสร้างความสามัคคี กระตุ้นให้คนในพื้นที่สำนึกรัก หวงแหน ร่วมกันรักษาและต่อยอดวัฒนธรรมประเพณี อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตรและประมง ยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวบ้านให้ดีขึ้น” ดร.สุทินกล่าวและเสริมว่า ในอนาคตจะมีการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้และฝึกทักษะกีฬามวยไทยที่กุดอ้ายลาย เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้หันมาสนใจและฝึกฝนมวยไทยกันมากขึ้น

ด้าน นายรัฐ คลังแสง กล่าวเน้นย้ำถึงบทบาทในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาและผลักดันกุดอ้ายลายให้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมการท่องเที่ยวของจังหวัดมหาสารคามอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม และนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่กุดอ้ายลายได้อย่างยั่งยืนต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *