สารภาพแล้ว! สาวสองโหด ฟันอีโต้เผาพระในกุฏิ ทำแผนอ้างแค้นนาน

ตำรวจตามรวบสาวสองวัย 34 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คดีทำร้ายพระมหาศุภทิน วัดตาเสา จ.บุรีรัมย์ สารภาพใช้อีโต้ฟันไม่ยั้งก่อนจุดไฟเผา อ้างแค้นส่วนตัวมานานหลายปี ด้านพระอาการสาหัส ชาวบ้านแห่ดูการทำแผนจำนวนมาก พร้อมประณามการกระทำที่อุกอาจ

บุรีรัมย์ – เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรห้วยราช นำโดย พ.ต.อ. จักรกฤษณ์ ศรีสุนทร ผู้กำกับการ สภ.ห้วยราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และชุดสืบสวน สภ.ห้วยราช ได้ควบคุมตัวนายพิษณุ หรือ “เจ” อายุ 34 ปี ชาวบ้านบ้านตาเสา ตำบลตาเสา อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ จุดเกิดเหตุภายในกุฏิพระมหาศุภทิน เทวอนรัมย์ พระลูกวัดตาเสา หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกายและจุดไฟเผาพระภายในกุฏิเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันเดียวกัน

เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจ โดยในเบื้องต้นมีการสันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุใช้มีดคัตเตอร์กรีดทำร้ายพระหลายแห่งทั่วร่างกาย ก่อนจะจุดไฟเผาซ้ำเติมตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้

หลังเกิดเหตุไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังออกแกะรอยติดตามตัวผู้ก่อเหตุอย่างเร่งด่วน จนกระทั่งได้รับเบาะแสว่านายพิษณุ ได้แชทขอเงิน 500 บาทจากญาติ จึงตามแกะรอยไปจนพบตัวที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในตำบลถนนหัก อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนจะนำตัวมาสอบสวนและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ระหว่างการทำแผน นายพิษณุ ได้เล่าเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุว่า ได้เดินทางมายังกุฏิพระมหาศุภทิน จากนั้นได้ใช้งัดประตูเข้าไป เมื่อเข้าไปภายในกุฏิ ผู้ต้องหายังคงแสดงอาการโมโหและอ้างว่า พระมหาศุภทิน มักจะพูดจาซ้ำซากหลายครั้งจนทำให้เกิดความรำคาญอย่างมาก จึงใช้อีโต้ที่เตรียมมาด้วยฟันเข้าที่ร่างกายพระอย่างไม่ยั้ง

หลังจากนั้น นายพิษณุ ได้เดินออกไปนำผ้าที่ชุบน้ำมันซึ่งเตรียมไว้ที่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านหน้ากุฏิ กลับเข้ามาภายในห้อง ก่อนจะนำผ้าดังกล่าวไปจุดไฟเผาร่างของพระมหาศุภทิน แล้วจึงขับรถจักรยานยนต์หลบหนีออกจากวัดไป

ผู้ต้องหาสารภาพต่อว่า หลังจากหลบหนีมา ได้ไปเติมน้ำมันที่ตู้หยอดเหรียญที่บ้านเมืองโพธิ์ ตำบลเมืองโพธิ์ เป็นเงิน 40 บาท เพื่อใช้ในการหลบหนีต่อไป

บรรยากาศในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ วัดตาเสา เต็มไปด้วยความตึงเครียด มีชาวบ้านในพื้นที่กว่าร้อยคนมารอดูเหตุการณ์ พร้อมกับแสดงความไม่พอใจและกล่าวตำหนิการกระทำอันโหดร้ายของผู้ต้องหา โดยชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การกระทำดังกล่าวเกินกว่าเหตุมาก เนื่องจากพระมหาศุภทิน มีอายุมากถึง 70 ปี อยู่ในวัยชราภาพ และเพิ่งจะมีอาการป่วยติดเตียงอีกด้วย

ด้าน พ.ต.อ. จักรกฤษณ์ ศรีสุนทร ผู้กำกับการ สภ.ห้วยราช เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนได้ทำงานอย่างหนักและติดตามแกะรอยผู้ต้องหาผ่านหลายช่องทาง จนกระทั่งได้รับข้อมูลว่าผู้ต้องหาได้ติดต่อญาติขอเงิน จึงสามารถติดตามไปจับกุมตัวได้ที่อำเภอนางรอง

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายพิษณุ ยอมรับว่ามีปัญหากับพระรูปนี้มานานแล้ว และเก็บความแค้นสะสมไว้ ส่วนประเด็นเรื่องยาเสพติด จะมีการส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธในประเด็นเรื่องเงินจำนวน 2 ล้านบาทที่เคยมีข่าวลือเชื่อมโยงกับเหตุการณ์นี้ โดยตำรวจจะทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากเชื่อว่าผู้ต้องหายังให้การไม่ครบถ้วนสมบูรณ์

สำหรับเรื่องคดี ในเบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อหาที่เกี่ยวข้องกับอาวุธและการพยายามฆ่า ส่วนอาการบาดเจ็บของพระมหาศุภทิน ยังคงอยู่ในขั้นวิกฤต และยังไม่สามารถให้การใดๆ ได้ โดยจะต้องรอให้แพทย์ยืนยันจำนวนบาดแผลที่ถูกฟันอย่างละเอียดอีกครั้ง

เหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้จากปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *