ด่วน! ตำรวจสุราษฎร์ฯ เร่งตามหา ‘เจ๊แก้ว’ แม่ค้าทุเรียน หายตัวปริศนา หลังไปโอนเงิน พบทรัพย์สินติดตัวกว่า 7 แสนบาท

สุราษฎร์ธานี – ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี กำลังเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนและติดตามหาตัว นางสุจิตรา หรือ ‘เจ๊แก้ว’ กุลจันทร์ อายุ 43 ปี แม่ค้าทุเรียนชื่อดังในพื้นที่ ตลาดโพธิ์หวาย บางกุ้ง อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังได้รับแจ้งความจากสามีว่าภรรยาได้หายตัวไปอย่างเป็นปริศนา

เหตุการณ์ดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. ของวันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2568 โดย นายพงษ์พันธ์ แซ่ตั้น อายุ 44 ปี สามีของนางสุจิตรา ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.วีรชาติ สีห์รา สว.สอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ระบุว่า นางสุจิตรา หรือเจ๊แก้ว ผู้เป็นภรรยา ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA PCX สีน้ำเงิน ทะเบียน 1กย 6818 สุราษฎร์ธานี ออกจากแผงจำหน่ายทุเรียนที่ตลาดโพธิ์หวาย เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 18.30 น. เพื่อเดินทางไปทำธุรกรรมโอนเงินเข้าบัญชีให้กับตนเองที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สุราษฎร์ธานี แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ทำให้เกิดความกังวลใจในความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน จึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทันทีที่ได้รับแจ้งความ พ.ต.อ.พรณรงค์ การอรชัย ผู้กำกับการ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายป้องกันปราบปราม ฝ่ายสืบสวนสอบสวน และงานจราจร เพื่อแบ่งมอบภารกิจในการเร่งติดตามค้นหาตัวนางสุจิตราอย่างเร่งด่วน

ชุดสืบสวนสอบสวนชุดแรกได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ทำงานบริเวณแผงทุเรียนที่ตลาดโพธิ์หวาย และบ้านพักของนางสุจิตรา โดยมีญาติให้ความร่วมมือในการตรวจสอบกล้องวงจรปิด (CCTV) ทั้งบริเวณแผงทุเรียน 2 จุด และบริเวณบ้านพัก 4 จุด เพื่อเก็บข้อมูลการบันทึกในห้วงเวลาก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานและหาเบาะแส

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันปราบปรามร่วมกับฝ่ายสืบสวนสอบสวนชุดที่ 2 ได้เร่งดำเนินการตรวจสอบและเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่คาดว่านางสุจิตราใช้ในการเดินทางทั้งก่อนและหลังเวลาที่ได้รับการติดต่อครั้งสุดท้าย

จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ทราบว่าก่อนการหายตัวไป นางสุจิตราได้สวมใส่เครื่องประดับทองคำติดตัวหลายรายการ ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท, สร้อยข้อมือทองคำหนัก 10 บาท และแหวนทองคำหนัก 2 สลึง ซึ่งประเมินมูลค่ารวมกันแล้วอยู่ที่ประมาณ 775,000 บาท เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันปราบปรามได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบข้อมูลกับร้านจำหน่ายทองรูปพรรณและสถานธนานุบาลในพื้นที่ เพื่อหาร่องรอยการนำทองคำไปจำหน่ายหรือจำนำ

ส่วนโทรศัพท์เคลื่อนที่ของนางสุจิตรา ซึ่งมีอยู่ 2 หมายเลข พบว่าไม่ได้นำติดตัวไปด้วย และได้ตรวจสอบพบอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน ทางเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือจากญาติในการตรวจสอบข้อมูลภายในเครื่องโทรศัพท์ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนและติดตาม

สำหรับการสืบสวนสอบสวนและติดตามค้นหายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนกำลังเพิ่มเติมจาก กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำโดย พ.ต.อ.ปริญญา ตันฑสุวรรณ และ กองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 นำโดย พล.ต.ต.เลิศชาย จำปาทอง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 8

จากการสืบสวนเพิ่มเติมทราบว่า นางสุจิตรา หรือเจ๊แก้ว สมรสกับนายพงษ์พันธ์ มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ นายพงศ์ศิริ แซ่ตั้น อายุ 25 ปี และ น.ส.เพ็ญพิชชา แซ่ตั้น อายุ 16 ปี ทั้งสองคนประกอบอาชีพรับซื้อทุเรียนจากชาวสวน โดยนายพงษ์พันธ์เป็นผู้รวบรวมและนำมาส่งให้นางสุจิตราจำหน่ายที่ตลาดโพธิ์หวาย ซึ่งนางสุจิตราจะเดินทางมาเปิดร้านตั้งแต่ก่อนเวลา 04.00 น. และปิดร้านประมาณ 20.00 น. ของทุกวัน

ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชนและพลเมืองดี หากผู้ใดมีข้อมูล หรือเบาะแสใดๆ ที่จะนำไปสู่การติดตามหาตัวนางสุจิตรา หรือเจ๊แก้ว กุลจันทร์ ขอความกรุณาแจ้งข้อมูลได้ที่เบอร์โทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องโดยตรง ได้แก่ พ.ต.อ.พรณรงค์ การอรชัย ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี โทร 08-0454-9515, พ.ต.ท.วีรชาติ สีห์รา สว.สอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี โทร 08-1208-2796 หรือ ศูนย์สื่อสาร สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี โทร 077-272-095 ข้อมูลทุกชิ้นจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการค้นหาและนำตัวกลับมาอย่างปลอดภัย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *