เจ้าคณะสุพรรณบุรี สั่งปลดเจ้าอาวาสวัดดัง เซ่นปมบริหารวัด-ก่อหนี้หลายล้าน ชาวบ้าน 2 ฝ่ายปะทะเดือด ก่อนเจรจายุติ

สุพรรณบุรี – เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี มีคำสั่งให้เจ้าอาวาสวัดโค้งบ่อแร่ อ.หนองหญ้าไซ ออกจากตำแหน่ง หลังถูกร้องเรียนปมบริหารจัดการวัด ทั้งการทุบสิ่งปลูกสร้าง เรี่ยไรเงิน แต่ไม่ปรากฏการพัฒนา จนเกิดหนี้สินนับล้านบาท ขณะที่ชาวบ้านแบ่งเป็น 2 ฝ่าย เกิดเหตุปะทะคารมหน้าวัด ก่อนเจ้าหน้าที่เข้าไกล่เกลี่ย และอดีตเจ้าอาวาสยอมย้ายออกภายใน 5 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 จากจังหวัดสุพรรณบุรี ถึงกรณีความขัดแย้งภายในวัดโค้งบ่อแร่ ต.ทัพหลวง อ.หนองหญ้าไซ ซึ่งนำไปสู่การรวมตัวของชาวบ้านและคำสั่งปลดเจ้าอาวาส โดยมีชาวบ้านจากหมู่ 9 และหมู่ 13 ต.ทัพหลวง อ.หนองหญ้าไซ จำนวนประมาณ 50 คน เดินทางไปรวมตัวกันที่วัดโค้งบ่อแร่ เพื่อแสดงความต้องการขับไล่ พระครูสมุห์จตุรภัทร ติสสโร เจ้าอาวาสวัดโค้งบ่อแร่

การรวมตัวครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการบริหารจัดการกิจการต่างๆ ภายในวัด อย่างไรก็ตาม มีชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งประมาณ 50 คน ซึ่งให้การสนับสนุนเจ้าอาวาส ได้เดินทางมาคัดค้าน ทำให้เกิดเหตุการณ์ปะทะคารมและโต้เถียงกันระหว่างชาวบ้านทั้งสองฝ่าย สร้างความตึงเครียดบริเวณหน้าวัด

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ น.ส.สราวดี สนเผือก นายอำเภอหนองหญ้าไซ พร้อมด้วย พ.ต.ท.บุญถิ่น พุ่มอ่ำ สวป. สภ.หนองหญ้าไซ ต้องนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอ เข้ามาระงับเหตุการณ์เพื่อป้องกันไม่ให้บานปลายไปมากกว่านี้

แหล่งข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 คณะสงฆ์จังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีคำสั่งที่ 1/2568 เรื่องให้พระสังฆาธิการออกจากตำแหน่งหน้าที่ โดยคำสั่งดังกล่าวระบุว่า พระครูสมุห์จตุรภัทร ติสสโร เจ้าอาวาสวัดโค้งบ่อแร่ ถูกร้องเรียนในหลายประเด็นเกี่ยวกับการบริหารวัด เช่น การทุบ รื้อถอนเสนาสนะสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัด อาทิ อุโบสถ หอสวดมนต์ ซึ่งดำเนินการมาเป็นเวลานานหลายปี นอกจากนี้ ยังมีการบอกบุญเรี่ยไรเงินจากสาธุชนผ่านเอกสารการทอดกฐิน ผ้าป่า และช่องทางสื่อออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง แต่กลับไม่ปรากฏความคืบหน้าในการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดตามที่ได้บอกบุญไป จนทำให้วัดต้องแบกรับภาระหนี้สินจำนวนมากถึงหลักล้านบาท

คำสั่งปลดยังระบุถึงความพยายามของเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งได้เดินทางไปพบกลุ่มผู้ร้องเรียนเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาที่วัดหนองหลวง และได้พยายามติดต่อเจ้าอาวาสวัดโค้งบ่อแร่ ทั้งทางโทรศัพท์และข้อความไลน์ เพื่อให้นัดหมายมาพูดคุยชี้แจง แต่เจ้าอาวาสกลับไม่ไปพบตามที่นัดหมาย ทำให้ผู้ร้องเรียนต้องยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ อีกหลายครั้ง

คณะสงฆ์จังหวัดสุพรรณบุรี พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวทำให้เจ้าอาวาสวัดโค้งบ่อแร่ขาดคุณสมบัติที่จะดำรงตำแหน่งต่อไป ประกอบกับความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนในระดับตำบลและอำเภอที่เสนอให้ยุติการดำรงตำแหน่ง จึงมีคำสั่งให้ พระครูสมุห์จตุรภัทร ติสสโร ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโค้งบ่อแร่ ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ฐานหย่อนความสามารถ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งของตนได้

นายอู๊ด ตัวแทนชาวบ้านฝ่ายที่เดินทางมาขับไล่อดีตเจ้าอาวาส กล่าวว่า ตนและชาวบ้านกลุ่มนี้รับทราบคำสั่งปลดแล้ว แต่ต้องการให้อดีตเจ้าอาวาสออกจากวัดไปโดยเร็วที่สุด ภายในคืนวันที่ 8 พฤษภาคม นี้เลย เนื่องจากที่ผ่านมาอดีตเจ้าอาวาสรูปนี้ได้สร้างความเสียหายต่อวัดอย่างมาก ทั้งการทุบทำลายสิ่งปลูกสร้าง และก่อหนี้สินทิ้งไว้ ทำให้ชาวบ้านต้องรวมตัวร้องเรียนหลายครั้งจนมีคำสั่งปลดออกมา

ขณะที่ นางอวด อายุ 65 ปี ชาวบ้านอีกฝ่ายที่มาให้กำลังใจอดีตเจ้าอาวาส กล่าวว่า ตนมาทำบุญที่วัดนี้เป็นประจำและเห็นว่าเจ้าอาวาสเป็นพระที่ดี มีความตั้งใจในการพัฒนาวัด การที่มีชาวบ้านบางส่วนมากดดันขับไล่ในลักษณะนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมต่อท่านเลย

ต่อมา คณะสงฆ์และฝ่ายปกครองอำเภอหนองหญ้าไซ โดยมี พระครูเกษมสุวรรณคุณ เขมจิตโต เจ้าคณะตำบลทัพหลวง ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดโค้งบ่อแร่ พร้อมด้วยพระวินยาธิการ (ตำรวจพระ) ได้เข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านทั้งสองฝ่ายและอดีตเจ้าอาวาส

หลังจากการเจรจาที่ใช้เวลานานหลายชั่วโมง ได้ข้อสรุปว่า อดีตเจ้าอาวาส พระครูสมุห์จตุรภัทร ติสสโร ยินยอมที่จะออกจากวัดโค้งบ่อแร่ตามคำสั่งของคณะสงฆ์ และจะดำเนินการเก็บสัมภาระส่วนตัวให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลา 5 วัน นับจากนี้ เมื่อได้ข้อยุติดังกล่าว ชาวบ้านทั้งสองฝ่ายจึงได้แยกย้ายกันเดินทางกลับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *