สุชาติ ชมกลิ่น ยังไม่ชัดอนาคตการเมือง รับเคารพรัก ‘ธรรมนัส’ จ่อนัดถกกลุ่ม สส. เกือบ 20 คน ปลายเดือนนี้
ทำเนียบรัฐบาล – เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมืองของตนเองและกลุ่ม สส. โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกที่ถูกจับตามองอย่างมาก
นายสุชาติ กล่าวว่า พื้นที่ภาคตะวันออกถือเป็นพื้นที่สำคัญที่มี สส. อยู่พอสมควร และเป็นจุดชี้ขาดการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา ยอมรับว่าผลงานของพรรคร่วมรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งก่อนอาจยังไม่ดีเท่าที่ควร แต่เชื่อว่ายังมีช่องทางในการปรับปรุงแก้ไขได้ เนื่องจากปัญหาบางส่วนเกิดจากการแข่งขันกันเองในหลายภาคส่วน ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า เชื่อว่าพรรคสามารถทำได้ดีขึ้น เพราะการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมา เช่น นายก อบจ., เทศบาล, และ อบต. ที่อาจจะมีขึ้น จะช่วยให้เห็นภาพรวม จุดอ่อน จุดแข็งของแต่ละพื้นที่ได้อย่างชัดเจนขึ้น ทำให้สามารถวางแผนการหาแนวร่วมจากชาวบ้านและผู้นำในพื้นที่ได้ก่อน
เมื่อถูกถามถึงกระแสว่ามีพรรคการเมืองอื่นเข้ามาทาบทามหรือไม่ นายสุชาติ เปิดเผยว่า ตนมีความสนิทสนมคุ้นเคยกับบุคคลในหลายพรรคการเมือง รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล แต่หากถามว่ามีการ “จีบ” หรือไม่นั้น ทุกคนต่างก็มีพื้นที่ของตัวเองและกำลังทำงานในพื้นที่ของตนเอง การทำการเมืองไม่ใช่สิ่งที่ทำได้สำเร็จภายใน 3-6 เดือน แต่ต้องใช้เวลาเตรียมการเป็นปี
นายสุชาติ ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า ส่วนตัวแล้วเคารพรัก ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ซึ่งมีความคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ปี 2562 ก่อนที่จะเข้ามาเป็น สส. ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ในทางการเมืองก็ต้องเคารพการตัดสินใจซึ่งกันและกัน
สำหรับคำถามที่ว่าพรรคกล้าธรรมจะอยู่ในข่ายพิจารณาสำหรับอนาคตทางการเมืองของตนหรือไม่ นายสุชาติ ชี้แจงว่า การตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่ตนเพียงคนเดียว แต่ยังต้องพิจารณาถึงกลุ่มเพื่อน สส. ที่ทำงานร่วมกันมา ทั้งจากภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคใต้ โดยปัจจุบันตนยังสังกัดอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ และไม่สามารถพูดถึงอนาคตที่ชัดเจนได้ในขณะนี้
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างพรรคกล้าธรรมและพรรคภูมิใจไทยว่าพรรคใดจะทำให้ทำงานได้มากกว่าในอนาคต นายสุชาติ มองว่า การเมืองในปัจจุบันขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งของตัวบุคคล ไม่ได้หมายความว่าพรรคใดจะทำให้การทำงานง่ายหรือยากกว่า ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติที่ตนสังกัดอยู่ ได้ต่อสู้และทำงานร่วมกันมาด้วยอุดมการณ์ทางการเมือง ซึ่งต้องรอดูทิศทางของพรรคในอนาคต และที่สำคัญคือต้องรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มเพื่อน สส. ในที่ประชุม
นายสุชาติ ย้ำว่า ตอนที่ตนเข้ามาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ได้พาเพื่อน สส. เข้ามาหลายสิบคน ดังนั้นจึงไม่สามารถตัดสินใจเพียงลำพังได้ และเคารพการตัดสินใจของเพื่อนร่วมกลุ่ม ซึ่งปัจจุบันตนยังคงทำงานเพื่อสนับสนุน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพรรครวมไทยสร้างชาติยังคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคกล้าธรรม ต่างก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มีเป้าหมายเดียวกันคือเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ดังนั้น หากมีเป้าหมายเดียวกันก็สามารถทำงานร่วมกันได้
สำหรับความเป็นไปได้ในการออกมาตั้งพรรคใหม่หากแนวทางของพรรคไม่ถูกใจคนในกลุ่ม นายสุชาติ กล่าวว่า การเมืองเป็นเรื่องของอนาคต การให้คำสัญญาในวันนี้ หากวันข้างหน้าไม่เป็นไปตามนั้น ก็จะทำให้เสียคำพูด
“ฉะนั้น วันนี้จึงยังไม่สามารถรับปากใครได้ และต้องหารือกับกลุ่มเพื่อนๆ ประมาณ 20 คน ในช่วงวันที่ 28-29 พฤษภาคมนี้ เพื่ออัปเดตสถานการณ์การเมืองและกำหนดแนวทางการทำงานในพื้นที่ ย้ำว่ายังคงยึดหลักการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล รับใช้รัฐบาล และเป็นพรรคร่วมที่ทำงานเพื่อสนับสนุนท่านนายกฯ” นายสุชาติ กล่าวสรุป