พายุถล่มวัดโพธิ์ทรายทอง บุรีรัมย์ ซัดแบบหล่อหลวงปู่สุขเกจิดังพังถล่ม เสียหาย 4 แสนบาท
บุรีรัมย์ – พายุฤดูร้อนกระหน่ำอย่างหนักวัดดังบุรีรัมย์ พัดแบบหล่อองค์หลวงปู่สุขเกจิดังอีสานใต้พังถล่ม คาดความเสียหายราว 4 แสน เจ้าอาวาสเผยเป็นภัยธรรมชาติไม่ใช่สิ่งลี้ลับอะไร ขณะโยมอุปัฏฐากเห็นแสงสีขาวคล้ายควันพุ่งเข้าหาแบบหล่อก่อนพังถล่ม
วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มอย่างหนัก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ วัดโพธิ์ทรายทอง ตำบลละหานทราย อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ส่งผลให้แบบหล่อ (แม่พิมพ์) ที่เตรียมใช้ในการก่อสร้างรูปหล่อเหมือนหลวงปู่สุข ธัมมะโชโต หรือพระครูภาวนาภิมนฑ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทรายทอง ซึ่งเป็นเกจิดังและเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนชาวอีสานใต้ ถูกกระแสลมพัดจนพังถล่มลงมาได้รับความเสียหายอย่างหนัก
แบบหล่อองค์หลวงปู่สุขที่เสียหายนั้น เป็นส่วนที่กำลังก่อสร้าง มีขนาดหน้าตัก 9 เมตร สูง 13 เมตร โดยองค์จริงที่จะสร้างด้วยทองเหลืองมีมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากแรงศรัทธาและการร่วมแรงร่วมใจของญาติโยมผู้มีจิตศรัทธา เหตุการณ์พายุพัดถล่มในครั้งนี้ ทำให้แบบหล่อส่วนที่เป็น PU โฟมได้รับความเสียหาย คาดว่ามีมูลค่าความเสียหายโดยรวมประมาณ 4 แสนบาท
นายทวี สิงห์สารท ประธานกรรมการวัดและเหรัญญิกของวัดโพธิ์ทรายทอง เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ซึ่งมีพายุฝนและลมพัดแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมามาก จนทำให้แบบหล่อที่เป็น PU โฟม พังถล่มลงมา ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 4 แสนบาท ยืนยันว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากภัยธรรมชาติ ไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องของสิ่งลี้ลับใดๆ พร้อมฝากเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาที่เคารพหลวงปู่ สามารถร่วมบุญในการก่อสร้างองค์หลวงปู่ให้แล้วเสร็จตามเจตนา เพื่อให้เป็นที่เคารพกราบไหว้ของคนในจังหวัดบุรีรัมย์และต่างจังหวัดต่อไป
ด้าน พระครูสิริโพธิธาดา ปัญญาคโม เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทรายทอง เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุ ท่านยืนอยู่ที่ศาลาและมีลมพัดแรงมาก พอมองออกไปที่ถนนก็เห็นบางส่วนของแบบหล่อตกลงมากลางถนนก็รู้สึกตกใจมาก ส่วนพระเณรหลายรูปในวัดก็อยู่ในกุฏิ ไม่มีใครกล้าออกไปข้างนอกเลยสักพัก แบบหล่อองค์หลวงปู่สุขขนาดใหญ่ที่กำลังก่อสร้างอยู่ก็ถูกลมพัดพังถล่มลงมา หลังจากนี้จะต้องทำการรื้อแบบหล่อที่เสียหายออกและเริ่มดำเนินการทำขึ้นใหม่
เจ้าอาวาสกล่าวเสริมว่า ส่วนขององค์จริงที่จะเป็นทองเหลืองยังอยู่ที่โรงหล่อในกรุงเทพฯ มูลค่าการก่อสร้างประมาณ 30 ล้านบาท มาจากการร่วมแรงร่วมใจของญาติโยม ส่วนแบบหล่อและโดมที่สร้างเสร็จก่อนจะถล่มลงมานั้นมีมูลค่าประมาณ 4 แสนบาท แต่ส่วนของ PU โฟม และการติดตั้งนั้นมีมูลค่าประมาณ 7 แสนบาท ซึ่งทางโรงหล่อจะเข้ามาดูแลและเริ่มติดตั้งเข้าไปใหม่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องของภัยธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องลี้ลับอะไร เพราะแม้แต่พระธาตุพนมก็ยังเคยพังลงมาแล้ว หลวงพ่อจึงขอเชิญชวนญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญในการก่อสร้างองค์หลวงปู่ให้แล้วเสร็จ
ขณะที่ นางดวงตะวัน พรมโพธิ์ อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นโยมอุปัฏฐากของวัด เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนไปประชุมที่หมู่บ้าน ตอนนั้นลมพัดแรงมาก เมื่อหันมองไปทางวัด เห็นแสงสีขาวเหมือนควันสีขาวเป็นทางยาว พุ่งตรงไปที่องค์หลวงปู่ และพุ่งออกไปด้านนอกวัดอย่างรวดเร็ว รู้สึกแปลกใจมากไม่รู้ว่าควันขาวนั้นคืออะไร แต่ส่วนตัวดูแลวัดนี้มาประมาณ 20 กว่าปี ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่ก็ยังมองว่าเป็นเรื่องของภัยธรรมชาติมากกว่า
ทีมข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากที่วัดโพธิ์ทรายทองแล้ว ยังมีรายงานว่ามีบ้านเรือนหลายหลังในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ได้รับความเสียหายจากพายุพัดถล่มในครั้งนี้ด้วย ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยต่อไป