ครบ 1 เดือน “ตึก สตง.ถล่ม” DSI-ตำรวจเร่งคลี่คลายปม “มาตรฐานการก่อสร้าง-นอมินี” สังคมคาดหวังความจริง

กรุงเทพมหานคร – ผ่านพ้นไปแล้ว 1 เดือนเต็ม สำหรับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ การพังถล่มลงมาของอาคารแห่งใหม่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง บนพื้นที่ริมถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากแรงแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 สร้างความตกตะลึงและสะเทือนใจแก่สังคมเป็นอย่างมาก

เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายมหาศาลต่อตัวอาคาร แต่ยังส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายจำนวนมาก โดยแรงงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเกือบ 100 คน ต้องติดอยู่ใต้ซากอาคาร และจนถึงขณะนี้ ผ่านไป 1 เดือนเต็ม ยังคงเหลือผู้ที่ยังคงต้องเร่งค้นหาอีกราว 20-30 คน

ปฏิบัติการค้นหาและรื้อถอนซากอาคารยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เป็นหน่วยงานหลักในการบัญชาการเหตุการณ์และเข้าดำเนินการรื้อถอนซากอาคารอย่างระมัดระวัง ล่าสุด สามารถเจาะเข้าถึงบริเวณพื้นชั้นที่ 1 ของอาคารได้แล้ว และบางส่วนได้เจาะลึกไปถึงชั้นใต้ดิน คาดว่าอาจจะมีการพบร่างผู้ประสบภัยเพิ่มเติมจากการปฏิบัติการในครั้งนี้

ภาพเหตุการณ์นาทีชีวิต ขณะที่อาคาร สตง. พังถล่ม โดยเฉพาะคลิปวิดีโอที่ผู้เห็นเหตุการณ์สามารถบันทึกไว้ได้และเผยแพร่ไปในวงกว้าง สร้างความหวาดกลัวและคำถามมากมายในสังคม คำถามที่ดังที่สุดคือ “มาตรฐานการก่อสร้าง” อาคารแห่งนี้มีปัญหาหรือไม่? เหตุใดอาคารของหน่วยงานสำคัญที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้งบประมาณของรัฐ จึงพังถล่มลงมาเพียงแห่งเดียว ขณะที่อาคารอื่นในบริเวณใกล้เคียงไม่ได้รับความเสียหายรุนแรง

หลังเกิดเหตุการณ์ รัฐบาลได้เร่งดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน ขณะที่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เข้ามาร่วมคลี่คลายปมปัญหา ทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม ที่รับผิดชอบในการเข้าตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานของวัสดุก่อสร้าง เช่น เหล็กและคอนกรีตที่ใช้ในโครงการ ว่าได้มาตรฐานตามที่กำหนดหรือไม่

ในส่วนของการดำเนินคดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็เร่งเดินหน้าสอบสวนเพื่อหาผู้รับผิดชอบและสาเหตุที่แท้จริงของการพังถล่ม โดยที่ดีเอสไอได้เข้ามาทำคดีนี้เป็นคดีพิเศษ โดยเน้นไปที่ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ (คดีนอมินี) และความโปร่งใสในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง (คดีฮั้วประมูลการก่อสร้าง)

การสอบสวนของดีเอสไอได้นำไปสู่การจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้งกรรมการบริษัทซึ่งเป็นชาวต่างชาติ และชาวไทยที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ถือหุ้นอำพราง เพื่อให้ชาวต่างชาติสามารถประกอบธุรกิจในไทยได้ นอกจากนี้ ดีเอสไอยังได้เข้าตรวจสอบและยึดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการก่อสร้างจำนวนมากถึง 24 ตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อนำมาวิเคราะห์และเชื่อมโยงข้อมูล ล่าสุด ดีเอสไอกำลังทยอยเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งวิศวกรชาวต่างชาติและชาวไทย ผู้บริหารบริษัทก่อสร้างของไทย และผู้ที่เกี่ยวข้องในกิจการร่วมค้า เข้ามาให้ปากคำ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เร่งสอบสวนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุโดยตรงที่ทำให้อาคารพังถล่มลงมา รวมถึงการตรวจสอบว่ามีบุคคลหรือหน่วยงานใดที่ละเลย บกพร่อง หรือกระทำการโดยประมาท จนเป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้

ครบ 1 เดือนแห่งการรอคอยของสังคม ความคาดหวังยังคงอยู่ที่ความคืบหน้าในการสอบสวนคดีของทั้งดีเอสไอและตำรวจ ประชาชนหวังว่าการสอบสวนจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมดปรากฏออกมา และนำไปสู่การดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ครั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำรอยอีกในอนาคต

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *