สปภ. ยัน พบร่างสมบูรณ์อีก 4 ราย ใต้ซากตึก สตง. เร่งลดความสูงถึงชั้น 1 สิ้นเดือนนี้ ย้ำรับมือฝนได้
กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย – ความคืบหน้ากรณีการค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคาร สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่มลงมา ในพื้นที่เขตจตุจักร นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ได้แถลงอัปเดตสถานการณ์ ณ ศูนย์บัญชาเหตุการณ์เขตจตุจักร เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568
นายสุริยชัย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 ทีมค้นหาได้พบร่างผู้เสียชีวิตที่สมบูรณ์เพิ่มเติมอีก 4 ราย บริเวณโซน C1 ซึ่งเป็นจุดที่ลึกลงไปประมาณ 2-3 เมตร จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานอยู่ที่บริเวณชั้น 19 ของอาคาร โดยสามารถระบุเพศชายได้ 2 ราย ส่วนอีก 2 ราย ยังไม่สามารถระบุเพศได้ ทั้งนี้ ในจำนวน 4 ร่างที่พบนี้ มี 2 ร่างที่พบทรัพย์สินที่สามารถนำไปใช้ประกอบการระบุตัวตนได้ ซึ่งได้มีการนำข้อมูลไปเปรียบเทียบกับข้อมูลคนหายที่ได้รับจากบริษัทฯ แล้ว
นอกจากการพบร่างที่สมบูรณ์แล้ว ยังได้พบชิ้นส่วนอวัยวะเพิ่มเติมอีก 6 ชิ้น ทำให้ยอดรวมชิ้นส่วนอวัยวะที่พบทั้งหมดอยู่ที่ 207 ชิ้น โดยชิ้นส่วนทั้งหมดได้ถูกส่งไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อดำเนินการระบุอัตลักษณ์บุคคลต่อไป
ในส่วนของการปฏิบัติงานเพื่อนำเศษปูนและเศษเหล็กออกจากซากอาคาร มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ (20 เม.ย.) สามารถขนซากได้ 242 เที่ยว และในวันนี้ (21 เม.ย.) สามารถขนได้ถึง 281 เที่ยว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับการที่การรถไฟฯ ได้ขยายพื้นที่สำหรับจัดเก็บหลักฐานซากอาคารให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น
สำหรับการลดความสูงของซากอาคาร ณ วันนี้ โซน A และ D ซึ่งเมื่อวานมีความสูง 11.51 เมตร ปัจจุบันเหลือเพียง 10.52 เมตร ส่วนโซน B และ C จากความสูง 9.81 เมตร ขณะนี้ลดลงเหลือ 9.36 เมตร ปริมาณการใช้น้ำมันเครื่องจักรก็สอดคล้องกับการปรับพื้นที่ซากอาคาร โดยเมื่อวานใช้น้ำมัน 6,374 ลิตร ส่วนวันนี้ใช้ 5,400 ลิตร
ด้านการตัดเหล็ก ได้รับการสนับสนุนทีมตัดเหล็กด้วยแก๊สจากทหารบก 3 ชุด และทหารเรืออีก 3 ชุด โดยปฏิบัติงานตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึง 07.00 น. เพื่อผลัดเปลี่ยนกำลังกัน ปัญหาอุปสรรคหลักในขณะนี้คือการล้าของเครื่องจักรจากการใช้งานหนักและต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อวานนี้มีการซ่อมแซมเครื่องจักรที่เป็นเคสหนักไปแล้วถึง 12 เคส และกำลังเร่งซ่อมแซมส่วนที่เหลือเพื่อให้สามารถดำเนินงานตามแผนได้เต็มที่
แผนการดำเนินงานในวันนี้คือการเปิดพื้นที่โซน B ให้ทะลุถึงโซน C ในขณะที่โซน A และ D ยังคงเน้นการลดความสูงของซากอาคาร โดยเหลือเวลาประมาณ 10 วัน จะถึงสิ้นเดือนเมษายน หากสามารถลดความสูงของซากอาคารลงได้วันละประมาณ 1 เมตร จากความสูงเฉลี่ยที่ประมาณ 9 เมตร ก็จะสามารถเข้าถึงบริเวณชั้น 1 ของอาคารได้ภายในสิ้นเดือนนี้ตามเป้าหมาย
หลังจากเข้าถึงชั้น 1 แล้ว แผนการทำงานจะถูกปรับเปลี่ยน เนื่องจากจะเป็นส่วนของชั้นใต้ดิน ซึ่งไม่สามารถทำงานจากด้านข้างได้เหมือนชั้นปกติ จึงได้มีการเตรียมการและประเมินการดำเนินงานไว้ล่วงหน้า พร้อมทั้งเตรียมผลัดเปลี่ยนเครื่องจักรและเจ้าหน้าที่ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และความหนาแน่นของชิ้นส่วนอาคารที่ตกลงไปในชั้นใต้ดิน
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงเรื่องฝนตกหนักในพื้นที่ปฏิบัติงาน นายสุริยชัย ยืนยันว่า ทีมงานสามารถรับมือกับสถานการณ์ฝนตกได้ ไม่มีปัญหาติดขัดแต่อย่างใด และมองว่าฝนตกอาจมีข้อดีทำให้บรรยากาศไม่ร้อนอบอ้าว อุณหภูมิลดลง ช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น
ทั้งนี้ ข้อมูลสรุปผู้ประสบภัย ณ วันที่ 20 เมษายน 2568 เวลา 18.00 น. ระบุมีผู้ประสบภัยทั้งหมด 103 ราย เป็นผู้เสียชีวิต 47 ราย (รวม 4 รายที่พบใหม่) บาดเจ็บ 9 ราย และยังคงมีผู้ติดค้างที่ยังอยู่ระหว่างการค้นหา 47 ราย