สสส. จับมือ 40 ภาคี เปิดตัว ‘ปิดเทอมสร้างสรรค์’ ปีที่ 8 จัดเต็ม ‘กิจกรรมฉ่ำเว่อ’ พร้อม LINE @happyschoolbreak ค้นหากิจกรรมใกล้บ้าน

กรุงเทพฯ – ‘เพราะการเรียนรู้ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน’ แนวคิดนี้เป็นหัวใจสำคัญของ ‘โครงการปิดเทอมสร้างสรรค์’ ซึ่งริเริ่มขึ้นเพื่อมอบโอกาสให้เด็ก เยาวชน และครอบครัว ได้ใช้เวลาช่วงปิดเทอมอย่างมีคุณภาพ ค้นหาความสนใจ และพัฒนาทักษะรอบด้าน ล่าสุด สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมด้วยรัฐบาล ภาคีภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม รวมกว่า 40 องค์กร ได้ร่วมกันจัดงาน Kick Off ปิดเทอมสร้างสรรค์อัศจรรย์วันว่าง ปี 2568 เข้าสู่ปีที่ 8 ภายใต้แนวคิด ‘ปิดเทอมสร้างสรรค์ กิจกรรมฉ่ำเว่อ’ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้สร้างสรรค์ทั่วประเทศ และเปิดตัวเครื่องมืออำนวยความสะดวกใหม่ LINE OA @happyschoolbreak

โครงการปิดเทอมสร้างสรรค์ มุ่งหวังให้ทุกช่วงปิดเทอมเป็นโอกาสในการพัฒนาทักษะชีวิต ทักษะทางสังคม ปลดปล่อยศักยภาพ ค้นหาแววความถนัด และสร้างความสุขในการเรียนรู้ นำไปสู่การเติบโตเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อมในทุกมิติ โดยความร่วมมือในปีนี้จะเน้นการทำงานใน 6 ด้านหลัก ได้แก่ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลแหล่งเรียนรู้ (Learning Platform), การพัฒนามาตรฐานแหล่งเรียนรู้ (Learning Space) และส่งเสริมความร่วมมือระดับท้องถิ่น, การพัฒนาศักยภาพนักจัดการเรียนรู้ (Learning Creator), การจัดแคมเปญกิจกรรมสร้างการเรียนรู้ (Learning Activity) ตลอดทั้งปี, การศึกษาแนวทางระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) เพื่อเชื่อมโยงการเรียนรู้นอกห้องเรียนกับการศึกษาในระบบ, และการสนับสนุนบทเรียน งานวิจัย รวมถึงงบประมาณสำหรับการจัดการแหล่งเรียนรู้

น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักอาวุโส สำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. กล่าวถึงความสำคัญของโครงการว่า จากผลสำรวจปี 2565 โดย สสส. และศูนย์ความรู้นโยบายเด็กและครอบครัว (คิด for คิดส์) พบว่าเยาวชนอายุ 15 – 25 ปี จำนวนมากยังเข้าไม่ถึงแหล่งเรียนรู้ประเภทต่างๆ เช่น ร้อยละ 60 ไม่เคยไปศูนย์ฝึกอาชีพ, ร้อยละ 42.7 ไม่เคยไปพิพิธภัณฑ์หรือหอศิลป์, ร้อยละ 29 ไม่เคยไปสวนสัตว์และสวนพฤกษศาสตร์ และร้อยละ 22.8 ไม่เคยไปสนามกีฬา สาเหตุหลักมาจากระยะทางและการเดินทาง รวมถึงข้อจำกัดด้านรายได้ของครอบครัว ซึ่งสอดคล้องกับรายงานสถานการณ์เด็กและครอบครัว ปี 2566 ที่ระบุว่ามีเด็กถึง 1.8 ล้านคน หรือร้อยละ 26 ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่และต้องอาศัยอยู่กับปู่ย่าตายาย เสี่ยงต่อการมีปัญหาพฤติกรรม

“การดำเนินงานเชิงรุกร่วมกับภาคีเครือข่ายจึงมีความสำคัญยิ่ง เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดีทั้ง 4 มิติแก่เด็กและเยาวชน รวมถึงสนับสนุนให้ครอบครัว ชุมชน เป็นพื้นที่เกื้อกูล และช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางให้เข้าถึงสิทธิ โอกาสในการพัฒนาศักยภาพจนเข้มแข็ง” น.ส.ณัฐยา กล่าว และเสริมว่า “ความพิเศษของโครงการในปีนี้คือการพัฒนาฐานข้อมูลบนระบบ LINE OA @happyschoolbreak ซึ่งจะเป็นเสมือนคลังข้อมูลขนาดใหญ่ รวบรวมพื้นที่จัดกิจกรรมและแหล่งเรียนรู้จากภาคีเครือข่าย ช่วยให้เด็ก ผู้ปกครอง ค้นหากิจกรรมดีๆ ช่วงวันหยุดหรือปิดเทอมที่อยู่ใกล้บ้านได้ง่ายขึ้น”

โครงการนี้ยังได้เห็นศักยภาพอันน่าทึ่งของภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่ อย่างเช่น น.ส.พัชราพรรณ กองมณี และ น.ส.เพชรลัดดา บุตรมหา เจ้าของร้าน ‘บ้านหลังวัด Coffee’ ที่เปิดร้านให้เป็นมากกว่าคาเฟ่ แต่เป็นพื้นที่ปลอดภัยและแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนในชุมชนบ้านหนองร้านหญ้า โดยจัดกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการสอนชงกาแฟ, การเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม, กิจกรรมศิลปะ (วาดภาพ, เพ้นท์ขวด), และการสอนภาษาอังกฤษ โดยในปีนี้จะเน้นให้ความรู้ด้านความมั่นคงทางอาหารและการกินอาหารปลอดภัย

เรื่องราวของ ‘บ้านหลังวัด Coffee’ สะท้อนให้เห็นว่า การสร้างพื้นที่เรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพเด็กๆ ไม่ใช่ภาระของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบร่วมกันของทุกคนในสังคม เพื่อร่วมกันดูแลอนาคตของลูกหลานให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพต่อไป

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลและค้นหากิจกรรม ‘ปิดเทอมสร้างสรรค์’ ได้ทาง LINE OA @happyschoolbreak หรือเว็บไซต์และช่องทางประชาสัมพันธ์ของ สสส. และภาคีเครือข่ายต่างๆ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *