บอร์ด รฟท. ไฟเขียว! เพิ่มงบ ‘รถไฟสายสีแดง’ 8.7 พันล้าน จ่ายตามคำสั่งศาล-เยียวยาเอกชน

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย (บอร์ด รฟท.) เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 โดยที่ประชุมมีมติสำคัญเห็นชอบให้มีการปรับกรอบวงเงินลงทุนและจัดหาแหล่งเงินเพิ่มเติมสำหรับโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน

การปรับเพิ่มงบประมาณครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อจ่ายค่างานตามสัญญาต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงค่างานตามคำสั่งศาลปกครองสำหรับสัญญาที่ 1 และค่างานที่เพิ่มขึ้นในสัญญาที่ 2 และ 3 โดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 8.7 พันล้านบาท (ซึ่งรวมดอกเบี้ยและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) การเพิ่มวงเงินครั้งนี้จะส่งผลให้กรอบวงเงินโครงการรถไฟสายสีแดงโดยรวมเพิ่มขึ้นจากเดิม 96,868.332 ล้านบาท (ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565) เป็น 104,445 ล้านบาท

สำหรับรายละเอียดของการเพิ่มวงเงิน แบ่งออกเป็นส่วนหลักๆ ดังนี้:

  • สัญญาที่ 1 (งานโยธาสำหรับสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง): มีกิจการร่วมค้า เอส ยู (ประกอบด้วย บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น หรือ UNIQ และ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น หรือ STEC) เป็นผู้รับจ้าง วงเงินที่เพิ่มขึ้นนี้มาจากค่างานที่ต้องจ่ายตามคำสั่งศาลปกครอง กรณีเปลี่ยนแปลงงาน (Variation Order – VO) จำนวน 4,205 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เรียกร้องตามสัญญา ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม, ดอกเบี้ยผิดนัดชำระเงินประกันสัญญา, ค่าใช้จ่ายการขยายเวลา, และเงินชดเชยค่าก่อสร้างในการปรับแบบ ทำให้มูลค่าที่เกี่ยวข้องกับสัญญาที่ 1 รวมเป็นวงเงิน 7,407 ล้านบาท (รวม VAT และดอกเบี้ยกรณีคิดอัตราแหล่งเงินกู้ภายในประเทศ) มูลค่างานส่วนนี้เป็นผลมาจากข้อพิพาททางสัญญา ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการได้ชี้ขาดและศาลปกครองมีคำพิพากษาให้บังคับตามคำชี้ขาดดังกล่าว เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568
  • สัญญาที่ 2 (งานโยธาสำหรับสถานีรถไฟบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง): มี บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ หรือ ITD เป็นผู้รับจ้าง มีการขอค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจำนวน 212.125 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการขยายระยะเวลาก่อสร้างที่เชื่อมโยงกับสัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 2
  • สัญญาที่ 3 (งานระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกลรวมงานจัดซื้อตู้รถไฟฟ้า): มี กิจการร่วมค้า MHSC (ประกอบด้วย บริษัท MITSUBISHI Heavy Industrial Ltd, บริษัท Hitachi และ บริษัท Sumitomo Corporation) เป็นผู้รับจ้าง มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจำนวน 847.746 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการขยายระยะเวลาก่อสร้างเช่นกัน

นอกเหนือจากค่างานสัญญา ยังมีค่าจ้างที่ปรึกษาที่เพิ่มขึ้นอีก 2 ส่วน ได้แก่ ค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างเพิ่มเติมจำนวน 129.125 ล้านบาท (ตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ) และค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการเพิ่มเติมจำนวน 106.764 ล้านบาท

ที่ผ่านมา โครงการรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน มีการปรับกรอบวงเงินมาแล้วรวม 8 ครั้ง ก่อนการปรับครั้งล่าสุดนี้ สาเหตุของการปรับปรุงในอดีตส่วนหนึ่งมาจากการปรับแบบก่อสร้าง เช่น การเปลี่ยนจาก 3 ทางเป็น 4 ทาง และการปรับแบบสถานีกลางบางซื่อ

รายงานข่าวระบุว่า รฟท. จะเร่งดำเนินการเสนอเรื่องดังกล่าวไปยังกระทรวงคมนาคมภายในสัปดาห์นี้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป สำหรับกรณีข้อพิพาทในสัญญาที่ 1 ซึ่งเกี่ยวข้องกับคำสั่งศาล รฟท. และกระทรวงคมนาคมกำลังเร่งพิจารณาผ่านคณะทำงานด้านกฎหมาย เพื่อให้สามารถเสนอครม. ได้ทันตามกรอบระยะเวลาที่ศาลสั่งบังคับคดีไว้ภายใน 60 วัน.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *