ซิดนีย์, ออสเตรเลีย – เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติสุดตื่นตาในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เมื่อแสงสีเขียวสดใสขนาดใหญ่พุ่งผ่านท้องฟ้ายามเช้าตรู่ สร้างความประหลาดใจและตื่นเต้นให้กับผู้พบเห็นจำนวนมาก โดยนักดาราศาสตร์ยืนยันว่าวัตถุที่เห็นคืออุกกาบาตขนาดมหึมา และถือเป็นปรากฏการณ์ที่หาชมได้ยากยิ่ง

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 ตามเวลาท้องถิ่น พยานผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งอยู่ในพื้นที่กว้างขวาง ตั้งแต่เมืองเพิร์ธไปจนถึงเขตโกลด์ฟิลด์ ต่างรายงานถึงลูกไฟสว่างจ้าสีเขียวและสีส้มที่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วพาดผ่านขอบฟ้า บางรายสามารถบันทึกภาพและวิดีโอของปรากฏการณ์อันน่าทึ่งนี้ไว้ได้ ซึ่งภาพที่เผยแพร่ออกมาสร้างความฮือฮาในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว

นายแมทธิว วูดส์ (Matthew Woods) จากหอดูดาวเพิร์ธ (Perth Observatory) ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นออสเตรเลีย โดยยืนยันว่าแสงที่เห็นไม่ใช่ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ หรือวัตถุแปลกปลอมอย่างยานอวกาศแต่อย่างใด แต่คืออุกกาบาตที่มีขนาดใหญ่และสว่างมากเป็นพิเศษ ซึ่งเขาถึงกับกล่าวขนานนามว่าเป็น “อุกกาบาตสุดอลังการ” (one hell of a meteor)

“อุกกาบาตลูกนี้มันโคตรเจ๋งเลย!” นายวูดส์กล่าวอย่างตื่นเต้น “ขนาดของมันก็ไม่ใช่ธรรมดา ๆ นะ มีตั้งแต่ลูกคริกเก็ตไปจนถึงลูกบาสเกตบอลเลยทีเดียว มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมาก ราว 16 ถึง 60 กิโลเมตรต่อวินาที”

เขายังอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้อุกกาบาตปรากฏเป็นแสงสีเขียวสดใสว่า เกิดจากความเสียดทานมหาศาลที่เกิดขึ้นเมื่อวัตถุพุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกด้วยความเร็วสูง แรงเสียดทานนี้จะทำให้เกิดความร้อนสะสมจนวัตถุเริ่มหลอมละลายและลุกไหม้ ซึ่งแสงสีเขียวและส้มที่มองเห็นนั้น สันนิษฐานว่าเกิดจากองค์ประกอบของธาตุเหล็กภายในอุกกาบาตที่กำลังเผาไหม้อยู่

“ความเสียดทานที่เกิดขึ้นจะสะสมจนทำให้มันละลาย และนั่นแหละคือสาเหตุที่เราเห็นแสงสีเขียวสวย ๆ แบบนั้น” นายวูดส์กล่าวเสริม “อุกกาบาตลูกดังกล่าว น่าจะประกอบด้วยธาตุเหล็ก ซึ่งลุกไหม้ขณะพุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก และนั่นแหละคือเหตุผลที่เราได้เห็นแสงเรืองสีเขียวกับสีส้มสวย ๆ แบบนั้น”

ปรากฏการณ์อุกกาบาตขนาดใหญ่และสว่างเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าในหลายพื้นที่ ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์กำลังดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อพยายามระบุตำแหน่งที่อาจมีชิ้นส่วนของอุกกาบาตหลงเหลือและตกถึงพื้นโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งหากพบชิ้นส่วนเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการศึกษาองค์ประกอบและที่มาของวัตถุนอกโลก

เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นตาให้กับประชาชน แต่ยังเป็นโอกาสอันดีสำหรับนักวิทยาศาสตร์ในการศึกษาปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่เกิดขึ้นใกล้ตัวโลกมากยิ่งขึ้น