เกิดเหตุการณ์สุดช็อกที่ประเทศสเปน เมื่อนักธุรกิจวัย 42 ปี ต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บสาหัสภายในช่องท้องและหลอดอาหาร หลังจากเพียงแค่จิบน้ำอัดลมโซดาขวดเดียวที่ร้านอาหาร แพทย์เผยกระเพาะและหลอดอาหารถูกทำลายอย่างรุนแรงจนกลายเป็นสีดำ สาเหตุที่แน่ชัดของสารอันตรายที่ปนเปื้อนในเครื่องดื่มดังกล่าวยังคงเป็นปริศนาที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งคลี่คลาย

รายงานจากสื่อต่างประเทศเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 เปิดเผยเรื่องราวของ นายปาโบล กอนซาเลซ (Pablo González) นักธุรกิจวัย 42 ปีจากเมืองซัลบาเตร์รา เด มิญโญ ประเทศสเปน ซึ่งต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเมืองบีโกอย่างเร่งด่วนตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2568 หลังประสบเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง

นายกอนซาเลซ เล่าเหตุการณ์ว่า ในวันเกิดเหตุ เขาได้ไปรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อน ๆ ที่ร้านแห่งหนึ่ง และได้สั่งน้ำแร่โซดาหนึ่งขวด พร้อมน้ำแข็งและมะนาวฝาน เครื่องดื่มที่เสิร์ฟเป็นยี่ห้อที่เป็นที่รู้จัก และขวดก็ดูเหมือนจะถูกปิดผนึกอย่างเรียบร้อย ไม่ได้มีสิ่งผิดปกติใด ๆ ตั้งแต่แรกเห็น

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาจำได้อย่างชัดเจนคือความรู้สึกแสบร้อนอย่างรุนแรงในปากและลำคอ เพียงไม่กี่วินาทีหลังจากที่เขาจิบโซดาเข้าไปในอึกแรก เขามีปฏิกิริยาตอบสนองทันที รีบกระโดดลุกจากเก้าอี้ และเมื่อมองลงไปในแก้ว ก็พบว่าของเหลวในแก้วมีสีเหลืองจาง ๆ เขาจึงรีบคว้าแก้วโค้กของเพื่อนมาจิบ และวิ่งไปยังห้องน้ำของร้านเพื่อบ้วนปากทันที

นายกอนซาเลซ เล่าถึงความเจ็บปวดในขณะนั้นว่า “รุนแรงจนตาแทบมองไม่เห็น” และเขาถึงขั้นต้องให้เพื่อนช่วยพยุงจึงจะสามารถยืนขึ้นได้ เนื่องจากอาการไม่ทุเลาลง แม้จะพยายามดื่มของเหลวอื่น ๆ รถพยาบาลจึงถูกเรียกมาเพื่อนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลในทันที

เมื่อถึงโรงพยาบาล แพทย์สามารถยืนยันได้เพียงว่า นายกอนซาเลซ ได้รับบาดเจ็บภายในจากแผลไหม้ และทำได้เพียงให้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น

ต่อมา นายปาโบล ได้ให้ข้อมูลกับสื่อท้องถิ่นในสเปนว่า “หลอดอาหารและกระเพาะของผมถูกเผาจนเป็นสีดำ ส่วนภายในช่องปากได้รับความเสียหายไม่มากนัก เพราะผมรีบบ้วนปากในทันที หลังจากที่ได้จิบโซดาอึกนั้น”

ตลอดระยะเวลาเกือบ 15 วันหลังเกิดเหตุ นายกอนซาเลซ ไม่สามารถรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำได้เลย เนื่องจากบาดแผลภายใน กระเพาะของเขาเริ่มแสดงสัญญาณของการฟื้นตัวบ้างแล้ว แต่แพทย์ยังคงระบุว่าหลอดอาหารยังคงได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง เพิ่งเมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมานี้เอง ที่เขาได้ดื่มน้ำได้เป็นครั้งแรก

ถึงกระนั้น แพทย์ยังไม่สามารถให้การยืนยันได้ว่า เขาจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่หรือไม่ หรือจะต้องใช้ระยะเวลานานเพียงใดในการรักษา

สำหรับสาเหตุของแผลไหม้ภายในที่รุนแรงนี้ “ยังคงเป็นปริศนา” เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบที่ร้านอาหาร และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาหลักฐานการกระทำผิดใด ๆ แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ ตำรวจจึงทำการยึดขวดน้ำแร่ที่เกี่ยวข้องไว้เพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์ แม้ว่าขวดจะถูกเทน้ำออกไปจนหมดก่อนที่ตำรวจจะมาถึง แต่ก็อาจสามารถตรวจหาสารตกค้างบางอย่างได้

หนึ่งในสาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดที่ถูกตั้งสมมติฐานขึ้น ณ ขณะนี้คือ การปนเปื้อนของขวดน้ำหรือแก้วน้ำแข็งด้วยสารทำความสะอาดบางชนิด อย่างไรก็ตาม ทางด้านเจ้าของร้านอาหารได้ “ปฏิเสธ” ความเป็นไปได้นี้อย่างสิ้นเชิงกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ การสอบสวนเพื่อหาคำตอบของเหตุการณ์ประหลาดนี้ยังคงดำเนินต่อไป