โอวีเอโด, สเปน – เรื่องราวสุดสะเทือนใจที่เกิดขึ้นในประเทศสเปน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าช่วยเหลือเด็กชาย 3 คน พี่น้อง ซึ่งถูกพ่อแม่ของตัวเองกักขังไว้ในบ้านนานเกือบ 4 ปี โดยอ้างว่าเพราะความหวาดกลัวต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เหตุการณ์นี้เผยให้เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่ของเด็กๆ ที่น่าตกใจ และนาทีที่พวกเขาได้สัมผัสกับโลกภายนอกเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

ตามรายงานจากสื่อต่างประเทศที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองโอวีเอโด ทางตอนเหนือของสเปน ได้เข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่งเมื่อวันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2568 ระหว่างที่เกิดเหตุการณ์ไฟดับครั้งใหญ่ทั่วประเทศ การเข้าตรวจสอบครั้งนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเผชิญกับภาพที่น่าหดหู่ใจอย่างยิ่ง เมื่อพบกับเด็กชาย 3 คน ได้แก่ ฝาแฝดวัย 8 ขวบ และพี่ชายวัย 10 ขวบ ที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ภายในบ้าน

เชื่อว่าเด็กๆ ทั้งสามคนไม่ได้ออกจากบ้านเลยนับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2564 ซึ่งหมายความว่าพวกเขาใช้ชีวิตอยู่แต่ภายในบ้านมาเกือบ 4 ปีเต็ม นับเป็นระยะเวลาเกือบครึ่งหนึ่งของชีวิตเด็กๆ เจ้าหน้าที่สืบสวนสังเกตเห็นว่าเด็กๆ มีท่าทีเดินไม่ค่อยมั่นคง เมื่อพวกเขาถูกพาออกมานอกตัวบ้านเป็นครั้งแรก สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบทางร่างกายและพัฒนาการจากการถูกจำกัดพื้นที่มาอย่างยาวนาน

ในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสะเทือนใจและบีบคั้นหัวใจ ขณะที่เด็กทั้งสามได้ออกมาเผชิญกับแสงแดดและโลกภายนอกเป็นครั้งแรก พวกเขาแสดงอาการตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด หลายคนสังเกตว่าเด็กๆ เริ่มหายใจเร็วขึ้น และเมื่อได้ลงไปสัมผัสกับสนามหญ้าข้างนอกบ้าน พวกเขาก็แสดงความสนใจที่จะสำรวจสิ่งต่างๆ รอบตัว ที่เป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับพวกเขา

มีการเปิดเผยว่า พ่อแม่ของเด็กๆ ไม่อนุญาตให้ลูกไปโรงเรียน และสั่งห้ามออกจากบ้านโดยเด็ดขาด ประตูบ้านถูกล็อก และหน้าต่างก็ถูกปิดตายอยู่ตลอดเวลา แม้แต่สวนนอกบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ควรจะได้สัมผัสกับธรรมชาติบ้าง เด็กๆ ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไป ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เด็กๆ ถูกซ่อนตัวไว้อย่างแนบเนียน จนเพื่อนบ้านเองก็ไม่ทราบว่ามีเด็กอยู่ในบ้านหลังนี้

สภาพภายในบ้านถูกบรรยายว่าสกปรกเป็นอย่างมาก และที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ มีรายงานว่าเด็กๆ ต้องนอนอยู่ในเปลขนาดเล็กมาโดยตลอด แม้กระทั่งพี่ชายคนโตวัย 10 ขวบ

พ่อแม่ของเด็กทั้งสามราย ถูกระบุชื่อในท้องถิ่นว่า นายคริสเตียน สเตฟเฟน (Christian Steffen) ชาวเยอรมัน วัย 53 ปี และภรรยาชื่อ นางเมลิสซา แอน สเตฟเฟน (Melissa Ann Steffen) ชาวอเมริกัน วัย 48 ปี ตามรายงานจากสื่อต่างประเทศ ทั้งสองคนถูกควบคุมตัวโดยไม่ได้รับการประกันตัว และอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติมหลังจากที่เด็กๆ ได้รับการช่วยเหลือ หากถูกตั้งข้อหาและศาลตัดสินว่ามีความผิด ทั้งคู่อาจต้องเผชิญโทษจำคุกสูงสุดถึง 7 ปี

มีความเป็นไปได้ที่พ่อแม่คู่นี้จะถูกตั้งข้อหาหลายกระทง รวมถึงการทารุณกรรมอย่างต่อเนื่อง การทอดทิ้งผู้เยาว์ และการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของเด็ก

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการช่วยเหลือและสืบสวน ฟรานซิสโก ฆาเบียร์ โลเปซ โลซาโน (Francisco Javier López Lozano) หัวหน้าตำรวจท้องถิ่นเมืองโอวีเอโด กล่าวสรุปว่า “พวกเราได้ทำการรื้อบ้านสุดสยดสยองแห่งนี้ลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” ซึ่งคาดว่าหมายถึงการตรวจค้นและจัดการสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด

เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ปกติ และเน้นย้ำความสำคัญของการเฝ้าระวังและดูแลสวัสดิภาพของเด็กในสังคม