ทำเนียบรัฐบาล – เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการเตรียมเปิดเวทีถกเถียงประเด็นการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งรวมถึงการพิจารณาเรื่องกาสิโน โดยระบุว่าขณะนี้กำลังรอ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางกลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศก่อน เพื่อมาหารือและพิจารณาว่าหน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการจัดเวทีดังกล่าว

นายสรวงศ์ กล่าวต่อไปว่า แม้รัฐบาลจะเตรียมการจัดเวทีดีเบต แต่หากสื่อมวลชนสำนักใดมีความประสงค์จะจัดการถกเถียงในประเด็นนี้ด้วยตนเอง ทางรัฐบาลก็ยินดีและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ โดยยืนยันว่ารัฐบาลมีความพร้อมที่จะชี้แจงทุกข้อสงสัยและทุกแง่มุมที่เกี่ยวข้องกับโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์และประเด็นเรื่องกาสิโน

เลขาธิการพรรคเพื่อไทยยังกล่าวถึงกรอบเวลาในการจัดเวทีหารือว่า จะพยายามเร่งรัดให้การจัดเวทีดีเบตในเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะถึงกำหนดเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ เพื่อให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องก่อนการพิจารณาของสภาฯ

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงแนวทางของพรรคเพื่อไทยว่าจะมีการจัดกิจกรรมรณรงค์หรือทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับเรื่องกาสิโนเป็นการเฉพาะหรือไม่ นายสรวงศ์ให้ความเห็นว่า คงไม่ถึงขั้นต้องจัดกิจกรรมรณรงค์ขนาดใหญ่ในนามพรรคเป็นการเฉพาะ แต่ส่วนตัวอยากเห็นการจัดเวทีดีเบตดังกล่าวโดยผู้จัดที่เป็นกลาง เพื่อให้การถกเถียงเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และรอบด้าน

สำหรับความคืบหน้าของร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องโดยตรง นายสรวงศ์ เทียนทอง ยืนยันว่ากฎหมายฉบับนี้จะถูกบรรจุเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรเป็นลำดับแรกๆ ทันทีที่เปิดสมัยประชุม หากไม่ดำเนินการเช่นนั้น ก็อาจทำให้การผลักดันกฎหมายล่าช้าออกไปอีก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลที่จะเร่งรัดกระบวนการพิจารณากฎหมายฉบับนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจนโดยเร็วที่สุด

การผลักดันร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นที่จับตาจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการอนุญาตให้มีกาสิโนในพื้นที่สถานบันเทิงครบวงจรนั้น เป็นนโยบายที่รัฐบาลคาดหวังว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงดูดนักท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับประเทศ แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อกังวลและข้อถกเถียงในสังคมเกี่ยวกับผลกระทบทางด้านสังคมและศีลธรรม ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องมีการจัดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็นและชี้แจงข้อมูลอย่างรอบด้านก่อนเข้าสู่กระบวนการนิติบัญญัติ