กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือผ่านนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน

โดยหนังสือฉบับดังกล่าวมีเนื้อหาขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย กรณีที่เกี่ยวข้องกับ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

นายสนธิญา ได้กล่าวอ้างถึงกรณีที่นายพีระพันธุ์ ถือครองหุ้นในบริษัทเอกชนและดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัทเอกชน

ซึ่งประเด็นสำคัญที่ถูกยกขึ้นมาคือการที่นายพีระพันธุ์ มิได้แจ้งให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทราบ ภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรี

นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวหาว่า มิได้ดำเนินการโอนหุ้นดังกล่าวภายในระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ได้แจ้งต่อ ป.ป.ช. ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งการกระทำทั้งสองประการนี้ นายสนธิญา ระบุว่าอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

นายสนธิญา ชี้ว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่าย ฝ่าฝืนมาตรา 187 ประกอบมาตรา 5 มาตรา 98 (3) มาตรา 160 (4) (5) (6) แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

พร้อมทั้งระบุว่ายังขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี ซึ่งกฎหมายเหล่านี้มีเจตนารมณ์เพื่อป้องกันปัญหาการขัดกันแห่งผลประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐมนตรีและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูง

ขั้นตอนหลังจากนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินจะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาคำร้องของนายสนธิญา อย่างละเอียด ก่อนที่จะมีคำวินิจฉัยว่าจะเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาตามที่ถูกร้องขอหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามอำนาจและหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง