ข่าวสะเทือนใจ! ลูกชายขืนใจแม่วัย 73 ปีที่ลำปาง แม่สุดช้ำไม่ยอมความ ขอให้ดำเนินคดีถึงที่สุด
ข่าวสะเทือนใจ! ลูกชายขืนใจแม่วัย 73 ปีที่ลำปาง แม่สุดช้ำไม่ยอมความ ขอให้ดำเนินคดีถึงที่สุด
ลำปาง – เหตุการณ์สะเทือนใจสังคม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะคา จังหวัดลำปาง ได้เข้าจับกุมตัว นายเอ (นามสมมติ) อายุ 49 ปี หลังได้รับแจ้งความจาก นางบี (นามสมมติ) อายุ 73 ปี ผู้เป็นแม่ ว่าถูกลูกชายแท้ๆ ของตนเองก่อเหตุข่มขืน
การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากนางบีได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ชยณัฐ เตชะผาติกุล สว.(สอบสวน) สภ.เกาะคา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายเอ ลูกชายของตนเอง โดยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 14 พฤษภาคม เวลาประมาณ 23.00 น. บนถนนเส้นทางลัดระหว่างอำเภอเกาะคาไปยังอำเภอสบปราบ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างเปลี่ยวและมืดมิด
นางบีเล่าว่า ในวันเกิดเหตุ ตนได้เดินทางไปเยี่ยมบ้านญาติที่อำเภอเกาะคา และตั้งใจจะค้างคืน จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้นายเอทราบ แต่นายเอไม่ยินยอมและได้ขี่รถจักรยานยนต์มารับตนกลับบ้าน อย่างไรก็ตาม แทนที่จะขับไปตามเส้นทางหลัก นายเอกลับเลือกขับอ้อมไปทางลัดเข้าสู่อำเภอสบปราบ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างและผ่านป่า ตนรู้สึกผิดสังเกตจึงสอบถามลูกชายว่าเหตุใดจึงขับอ้อมมาทางนี้ เมื่อขับมาถึงกลางทางที่เปลี่ยว นายเอก็ได้จอดรถ โดยอ้างว่าน้ำมันหมด
จากนั้นนายเอได้ลากแขนตนและผลักให้ล้มลงนอนข้างทาง ด้วยความตกใจ ตนได้ถามลูกชายว่าจะทำอะไร แต่นายเอได้ตอบกลับมาว่า “ขอเถอะ” ตนจึงพยายามร้องขอชีวิต โดยบอกลูกชายว่า “นี่แม่นะ” พร้อมกับยกมือขึ้นกราบลูกเป็นสิบครั้ง หวังให้ลูกชายใจอ่อนและหยุดการกระทำ แต่ลูกชายไม่ฟังเสียง ยังคงผลักตัวตนลงนอนและพยายามขืนใจ ตนพยายามร้องขอความช่วยเหลืออย่างสุดเสียง แต่ไม่มีใครได้ยินเนื่องจากอยู่ในป่า หลังจากก่อเหตุเสร็จสิ้น นายเอก็ยังคงนอนทับตัวตนไว้ ตนรู้สึกสิ้นหวัง คิดว่าอาจจะไม่รอด จึงตัดสินใจพูดกับลูกชายไปว่า “กลับบ้านไปทำที่ห้องดีกว่า ไม่ต้องนอนกลางป่าและมืด” เมื่อได้ยินดังนั้น นายเอจึงยอมปล่อยตัว ตนจึงรีบโทรศัพท์ให้เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงขี่รถมารับกลับบ้าน โดยที่นายเอก็ได้ขี่รถตามมา
ทันทีที่กลับถึงบ้าน นางบีได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับหลานฟัง และได้ตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะคา ได้เข้าดำเนินการติดตามตัวนายเอ และสามารถจับกุมตัวได้ขณะที่นายเอกำลังนอนหลับอยู่ที่บ้านพัก
นางบีให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลูกชายว่า นายเอเคยมีครอบครัวและมีลูกชายแล้ว แต่ต่อมาได้เลิกรากับภรรยา และเคยต้องโทษในคดีอั้งยี่ซ่องโจร ถูกจำคุกนาน 10 ปีในกรุงเทพฯ เพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา หลังจากพ้นโทษ นายเอได้มาอาศัยอยู่กับตน โดยตนหวังว่าลูกชายจะกลับมาทำงานเลี้ยงดู แต่กลายเป็นว่าตนเองที่ต้องหาเลี้ยงนายเอ ซึ่งมักจะอยู่บ้านเฉยๆ กินกับนอน และดื่มเหล้าอยู่เป็นประจำ ตนยังคงทำกับข้าวและชงกาแฟให้ลูกทุกวัน ด้วยความหวังว่าลูกชายจะเป็นคนดีขึ้น จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ขึ้น ตนไม่คิดว่าลูกชายแท้ๆ จะสามารถทำเรื่องร้ายแรงเช่นนี้กับผู้เป็นแม่ได้ ด้วยความเสียใจและรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น นางบียืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ขอให้ดำเนินคดีกับนายเอให้ถึงที่สุด ไม่ขอให้อภัยในพฤติกรรมนี้