สมเด็จพระสังฆราช ทรงเปิดการประชุมสัมมนาพระอุปัชฌาย์คณะธรรมยุต ย้ำความสำคัญของ ‘จริยาพระอุปัชฌาย์’

กรุงเทพฯ – วันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2568 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปยังศาลาสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ทรงเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาพระอุปัชฌาย์คณะธรรมยุต พุทธศักราช 2568

การประชุมสัมมนาในครั้งนี้ จัดขึ้นโดยคณะธรรมยุต มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อให้พระอุปัชฌาย์ผู้เข้าร่วมการประชุม ได้มีโอกาสเพิ่มพูนความรู้ตามหลักธรรมคำสอน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน รวมถึงชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง เพื่อสนับสนุนให้การดำเนินศาสนกิจของคณะสงฆ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตลอดจนเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาและดำรงรักษาไว้ให้มั่นคงสืบไป โดยมีพระอุปัชฌาย์จากทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 556 รูป เข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง

ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ สมเด็จพระสังฆราช ได้ประทานพระโอวาทอันทรงคุณค่า โดยทรงเน้นย้ำถึงบทบาทและหน้าที่ของพระอุปัชฌาย์ว่า “ตำแหน่งพระอุปัชฌาย์ เป็นตำแหน่งสำคัญยิ่งในการธำรงพระพุทธศาสนา และการรักษาเกียรติภูมิคณะสงฆ์ พระอุปัชฌาย์ทุกรูปย่อมทราบดีว่าท่านมีหน้าที่อย่างไรตามพระธรรมวินัย ตลอดจนกฎหมายบ้านเมือง และกฎระเบียบของคณะสงฆ์ จึงขอเน้นย้ำให้ครองตนอย่างเคร่งครัดใน ‘จริยาพระอุปัชฌาย์’ ซึ่งเชื่อว่าท่านได้ศึกษากันมาแล้วเป็นอย่างดี เพราะบรรดาภาระหน้าที่ที่ท่านจะปฏิบัตินั้น ล้วนต้องมีจริยาเป็นเครื่องกำกับอยู่เสมอ เพื่อให้ท่านเป็นบุพการีทางธรรมอันกุลบุตรทั้งหลายจักได้เคารพกราบไหว้ได้โดยสนิทใจ ด้วยกุศลฉันทะที่จะประพฤติปฏิบัติ ตามคำบอกกล่าวสั่งสอน และตามวิถีจริยาที่ท่านได้ประพฤติปฏิบัติเป็นแบบอย่างไว้ดีงามแล้ว”

สมเด็จพระสังฆราช ยังได้ทรงกำชับให้พระอุปัชฌาย์ทุกรูปช่วยกันเอาใจใส่พิจารณาคุณสมบัติของกุลบุตรผู้ที่จะเข้ามาบวชให้มีความถี่ถ้วนรอบคอบ และเมื่อบวชแล้วก็จะต้องทำหน้าที่อบรมสั่งสอน รวมถึงกวดขันดูแลความประพฤติของสัทธิวิหาริก (ศิษย์) อย่างใกล้ชิด ไม่ให้เกิดกรณีการ “บวชทิ้งบวชขว้าง” คือบวชแล้วไม่ดูแลกำกับ ซึ่งนับเป็นการทำผิดหน้าที่และผิดจริยาพระอุปัชฌาย์ มีโทษทั้งในปัจจุบันและในอนาคต จึงขอฝากให้ทุกท่านร่วมกันจรรโลงพระพุทธศาสนา เป็นกำลังสำคัญในการพิทักษ์รักษาคณะสงฆ์ ด้วยการทำหน้าที่พระอุปัชฌาย์อย่างถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์เสมอไป

สำหรับการอบรมสัมมนาในครั้งนี้ มีการนิมนต์และเชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งที่เป็นบรรพชิต (พระภิกษุ) และคฤหัสถ์ (ฆราวาส) มาร่วมบรรยายถวายความรู้ และมีการจัดกิจกรรมสัมมนาแบ่งกลุ่มย่อย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้ระดมกำลังความคิด วิเคราะห์ วิจารณ์ และนำเสนอแนวทางที่เป็นประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อพระศาสนาและสังคมไทย โดย สมเด็จพระสังฆราช ทรงให้โอวาทปิดท้าย ขอให้ทุกท่านจงตั้งใจสดับตรับฟัง พิจารณา และร่วมกิจกรรมทั้งปวง ด้วยอิทธิบาทธรรมอันพรั่งพร้อมอยู่เสมอตลอดโครงการ

อนึ่ง ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทของพระอุปัชฌาย์ คือ ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบและรับรองผู้ที่จะเข้ารับการบรรพชาอุปสมบท (บวช) ในพิธี และเป็นผู้รับปกครองดูแล ให้คำแนะนำ ตักเตือน รวมถึงติดตามความเป็นอยู่ของผู้ที่ตนบวชให้ เสมือนบิดาที่ปกครองดูแลบุตร เพื่อให้อยู่ในแนวทางอันถูกต้องเหมาะสมตามหลักพระพุทธศาสนา โดยยึดตามวิถีจริยาที่ท่านได้ประพฤติปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งนี้ ตามกฎมหาเถรสมาคมได้กำหนดให้ในเขตปกครองคณะสงฆ์ระดับตำบลหนึ่ง มีพระอุปัชฌาย์ได้เพียงหนึ่งรูป เว้นแต่ในกรณีที่มีความจำเป็นพิเศษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *