ปศุสัตว์ ผนึกกำลังภาครัฐ เอกชน และสหกรณ์ โคนม ร่วมหาทางออกเร่งด่วนแก้ปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาด ชูแผนนำน้ำนมส่วนเกินจากข้อตกลง (MOU) ไปแปรรูปเป็น ‘นมผงและครีม’ พร้อมให้ภาคเอกชนรับซื้อ มั่นใจมาตรการนี้จะช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมสามารถขายน้ำนมดิบได้ทุกหยดอย่างยั่งยืน

น.สพ.สมชวน รัตนมังลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์, องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.), สมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย และสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาดเกินกว่าปริมาณที่ระบุใน MOU ว่า การหารือครั้งนี้เป็นไปตามข้อสั่งการเร่งด่วนของ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้เกษตรกรสามารถขายน้ำนมดิบได้ทั้งหมด โดยไม่ทอดทิ้งน้ำนมแม้แต่หยดเดียว

แนวทางแก้ปัญหาที่ชัดเจนคือ การเพิ่มทางเลือกให้สหกรณ์โคนมหรือกลุ่มเกษตรกร สามารถนำผลผลิตส่วนเกินจาก MOU เข้ามาแปรรูปที่สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ซึ่งมีศักยภาพโรงงานที่มีมาตรฐานสากล โดยจะดำเนินการแปรรูปเป็นนมผงและครีม จากนั้นสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทยจะรับซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปบริหารจัดการต่อไป

สำหรับการแบ่งบทบาทหน้าที่นั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ จะทำหน้าที่ตรวจสอบสหกรณ์โคนมที่มีผลผลิตเกินกำลังรับได้ และจัดลำดับให้นำผลผลิตส่วนเกินเข้ามาแปรรูปที่สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ด้าน อ.ส.ค. จะเป็นเจ้าภาพหลักในการบริหารจัดการด้านค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงต้นทุนการผลิตครีมและนมผง ถือเป็นหน่วยงานหลักที่จะสนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในเรื่องนี้โดยตรง

ขณะที่ กรมปศุสัตว์ มีบทบาทสำคัญในการประสานงานกับสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทยและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตรวจสอบว่าภาคเอกชนหรือสหกรณ์รายใดที่ทอดทิ้งเกษตรกร หรือผิดเงื่อนไขที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ ในกรณีที่ทำพันธสัญญานมโรงเรียน หากพบการกระทำผิด กรมปศุสัตว์ ในฐานะประธานการพิจารณาโทษตามหลักเกณฑ์นมโรงเรียน จะดำเนินการตามระเบียบอย่างเด็ดขาด

นายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยการ อ.ส.ค. กล่าวยืนยันว่า บทบาทของ อ.ส.ค. ไม่ว่าจะในสถานการณ์น้ำนมดิบล้น หรือน้ำนมดิบขาด ก็ยังคงเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของ อ.ส.ค. เสมอ และจะเริ่มดำเนินการตามแนวทางที่หารือร่วมกันทันที เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรโดยเร็วที่สุด

ด้านนายอาทิตย์ นุกูลกิจ นายกสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย กล่าวเสริมว่า สมาคมฯ เป็นฟันเฟืองสำคัญในอุตสาหกรรมนม และเป็นตัวแทนผู้ประกอบการที่รับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรไทยมาตลอด นโยบายภาครัฐในครั้งนี้ สมาคมฯ พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เพื่อดูแลเกษตรกร และพัฒนาร่วมกันให้อุตสาหกรรมและเกษตรกรไทยเติบโตอย่างยั่งยืนเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน

ขณะที่ นายอำนวย ทงก๊ก ประธานสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด กล่าวขอบคุณรัฐบาล โดยเฉพาะรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ นฤมล และรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ อิทธิ รวมถึงส่วนราชการต่างๆ ที่ได้แก้ปัญหาได้ถูกทาง โดยบริษัทที่ทำ MOU แล้วมีปัญหาน้ำนมเกิน สามารถนำมาแปรรูปเป็นนมผงเก็บไว้ใช้ยามขาดแคลนได้เหมือนต่างประเทศ ซึ่งสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็นฯ มีโรงงานแปรรูปที่พร้อมรองรับ