สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ โดยนายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สนค. เปิดเผยถึงสถานการณ์ดัชนีราคาส่งออกและดัชนีราคานำเข้าของไทยประจำเดือนมีนาคม 2568 ซึ่งยังคงขยายตัวต่อเนื่อง แต่มีอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า พร้อมทั้งเตือนให้จับตาปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าไทยในระยะข้างหน้า

ดัชนีราคาส่งออกเดือนมีนาคม 2568 อยู่ที่ 111.0 ซึ่งขยายตัวร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แม้จะยังคงขยายตัว แต่เป็นการชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 สาเหตุหลักมาจากการลดลงของราคาสินค้าเกษตรบางกลุ่ม รวมถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับลดลง ส่งผลให้สินค้าเกี่ยวเนื่องลดลงตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม หมวดสินค้าที่ยังคงเป็นแรงหนุนให้ดัชนีราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่:

• หมวดสินค้าอุตสาหกรรม: สูงขึ้นร้อยละ 1.5 โดยเฉพาะทองคำ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นจากความกังวลต่อความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก รวมถึงเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ที่ได้รับอานิสงส์จากความต้องการสินค้าเทคโนโลยีรุ่นใหม่ และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ความต้องการในตลาดต่างประเทศยังคงเพิ่มขึ้น
• หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร: สูงขึ้นร้อยละ 1.3 นำโดยอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งจำนวนผู้เลี้ยงสัตว์ทั่วโลกเพิ่มขึ้น ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบมีแนวโน้มสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และผลไม้กระป๋องและแปรรูป ที่ได้รับความนิยมในฐานะอาหารพร้อมรับประทาน

ขณะที่หมวดสินค้าที่ดัชนีราคาส่งออกปรับตัวลดลง ได้แก่ หมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง ลดลงร้อยละ 10.1 โดยเฉพาะน้ำมันสำเร็จรูป และหมวดสินค้าเกษตรกรรม ลดลงร้อยละ 2.9 โดยเฉพาะข้าวจากภาวะอุปทานส่วนเกินและสต็อกโลกที่สูง รวมถึงผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นและความต้องการในตลาดจีนที่ลดลง

ดัชนีราคานำเข้าเดือนมีนาคม 2568 อยู่ที่ 114.3 ขยายตัวร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการชะลอลงเช่นกัน โดยมีสาเหตุหลักจากการลดลงของราคาสินค้าเชื้อเพลิง

กลุ่มสินค้าที่ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวสูงขึ้น ประกอบด้วย:

• หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค: สูงขึ้นร้อยละ 8.1 จากเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม และเครื่องประดับอัญมณี
• หมวดสินค้าทุน: นำโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมดิจิทัล การปรับโครงสร้างการผลิต และการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
• หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป: สูงขึ้นร้อยละ 4.5 โดยเฉพาะทองคำที่ได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกกังวลต่อสงครามการค้าที่อาจรุนแรงขึ้น รวมถึงอุปกรณ์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น แผงวงจรไฟฟ้า เพื่อใช้ในการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและยานยนต์ไฟฟ้า และสินแร่โลหะอื่นๆ สำหรับอุตสาหกรรมภายในประเทศ

สำหรับหมวดสินค้าเชื้อเพลิง ดัชนีราคาลดลงร้อยละ 6.1 เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงจากอุปทานส่วนเกินและความต้องการที่ชะลอตัว ส่วนหมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ดัชนีราคาโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีการเปลี่ยนแปลงภายในกลุ่ม โดยส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ราคาสูงขึ้น ขณะที่รถยนต์โดยสารและรถบรรทุกราคาลดลงจากการแข่งขันของรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูก

แนวโน้มไตรมาส 2 ปี 2568 นายพูนพงษ์กล่าวว่า ยังมีปัจจัยที่สนับสนุนให้ดัชนีราคาทั้งส่งออกและนำเข้าขยายตัวต่อเนื่อง ได้แก่ ฐานราคาปี 2567 ที่ยังต่ำกว่าปี 2568 สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและสินค้าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังมีแนวโน้มเติบโต รวมถึงต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้า ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าและภาษีของสหรัฐฯ ราคาสินค้าเกษตรที่อาจลดลงจากอุปทานส่วนเกิน และการแข่งขันด้านราคาที่มีแนวโน้มสูงขึ้น