ฟื้น SML! “แพทองธาร” เปิดโครงการส่งงบฯ ตรงถึงชุมชน แบ่งตามขนาด หวังปั้นเศรษฐกิจฐานราก
กรุงเทพฯ – น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดตัวโครงการเอสเอ็มแอล (SML) อย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อโครงการ “ส่งตรงโอกาสถึงชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน” ซึ่งขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากทั่วประเทศ
น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของโครงการกองทุนหมู่บ้านว่า เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2544 ในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากฐานราก สร้างโอกาส และเพิ่มอาชีพให้กับประชาชนในชุมชน เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาปากท้องของคนส่วนใหญ่ในประเทศ
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองรวมทั้งสิ้น 79,610 แห่ง มีสมาชิกมากกว่า 13 ล้านคน และมีเงินทุนหมุนเวียนรวมกว่า 300,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความเข้มแข็งของกลไกในระดับชุมชน โครงการเอสเอ็มแอลที่นำกลับมาใช้อีกครั้งในวันนี้ มาจากเสียงเรียกร้องของประชาชนในหลายพื้นที่ ซึ่งยืนยันว่าโครงการลักษณะนี้สามารถตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาความต้องการของชุมชนได้อย่างแท้จริง
แกนนำพรรคเพื่อไทยยังย้ำว่า โครงการเอสเอ็มแอลในครั้งนี้ ไม่ใช่โครงการแจกเงินให้กับชุมชน แต่ถูกออกแบบมาให้เป็นเครื่องมือที่ชุมชนจะนำไปใช้เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก และแก้ไขปัญหาต่างๆ ตามบริบทและความต้องการของตนเองได้อย่างตรงจุด
สำหรับโครงการเอสเอ็มแอล หรือที่รู้จักในชื่อ กองทุนหมู่บ้าน เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 24 ปีที่แล้ว (พ.ศ. 2544) ภายใต้แนวคิด “ร่วมคิด ร่วมทำ เพื่อประชาชน โดยประชาชน” โดยมีการจัดตั้งกองทุนหมุนเวียนในทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ เริ่มต้นหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้ชาวบ้านได้เข้าถึง นำไปใช้ประกอบอาชีพ ดำรงชีพ หรือสำหรับการลงทุนต่างๆ
นอกจากนี้ กองทุนหมู่บ้านยังมุ่งส่งเสริมและพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้มีขีดความสามารถ เสริมสร้างกระบวนการพึ่งพาตนเอง และกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก เพื่อให้เกิดศักยภาพและความเข้มแข็งของประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างยั่งยืน ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โครงการนี้ก็ได้รับการสานต่อและเดินหน้าต่อยอดมาโดยตลอด จนถึงรัฐบาลปัจจุบันที่นำกลับมาปัดฝุ่นและพัฒนาต่อยอดอีกครั้ง
ความพิเศษของโครงการเอสเอ็มแอลในครั้งนี้ คือ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณกระจายตรงสู่ท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ โดยแต่ละหมู่บ้านหรือชุมชนเมืองจะได้รับเงินทุนสนับสนุนตามขนาดของประชากร ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่
- ขนาดเอส (S – Small): ชุมชนที่มีประชากรไม่เกิน 500 คน จะได้รับการจัดสรรเงินทุน 200,000 บาท
- ขนาดเอ็ม (M – Medium): ชุมชนที่มีประชากร 501-1,000 คน จะได้รับการจัดสรรเงินทุน 300,000 บาท
- ขนาดแอล (L – Large): ชุมชนที่มีประชากร 1,000 คนขึ้นไป จะได้รับการจัดสรรเงินทุน 400,000 บาท
พรรคเพื่อไทยระบุว่า จุดเด่นสำคัญของโครงการนี้อยู่ที่กระบวนการทำงานในระดับชุมชน ซึ่งแต่ละหมู่บ้านจะสามารถนำเงินที่ได้รับการจัดสรรไปใช้เพื่อพัฒนาหมู่บ้านของตนเองได้อย่างอิสระ โดยผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของสมาชิกในชุมชน การรวมตัวกันเสนอโครงการ และตัดสินใจร่วมกันว่าจะนำเงินไปใช้เพื่อการพัฒนาด้านใด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมอาชีพ หรือการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนอื่นๆ ตามที่ชุมชนนั้นๆ ต้องการ
ด้วยผลสำเร็จที่เคยปรากฏมาแล้วในอดีต และการนำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เชื่อว่าโครงการเอสเอ็มแอลที่ถูกนำมาต่อยอดอีกครั้งนี้ จะสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนในระดับฐานรากได้อย่างแท้จริง และเป็นกลไกสำคัญในการฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศจากภายในสู่ภายนอก