กรุงเทพฯ – วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 (วันที่ตามข่าวต้นฉบับ) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยได้เสนอแนวทางในการหางบประมาณเพิ่มเติมให้กับรัฐบาล เพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีงบประมาณ 2568

น.ส.ศิริกัญญาระบุว่า ภายหลังที่รัฐบาลได้มีมติชะลอโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตออกไป และได้ปรับเปลี่ยนการใช้งบประมาณจำนวน 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งเดิมตั้งใจจะใช้เพื่อกระตุ้นการบริโภค ไปเน้นการกระตุ้นในด้านอื่นๆ แทน เช่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (น้ำ คมนาคม), การส่งเสริมการท่องเที่ยว, การลดผลกระทบจากการส่งออก และการลงทุนในระดับชุมชนต่างๆ

อย่างไรก็ตาม น.ส.ศิริกัญญา แสดงความกังวลว่า วงเงิน 1.57 แสนล้านบาทนี้ อาจไม่เพียงพอต่อการดำเนินการในหลายๆ ด้าน ทั้งการเยียวยาผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ (Trump tariff) และการกระตุ้นการลงทุนและการท่องเที่ยว จึงต้องการช่วยรัฐบาลหางบประมาณเพิ่มเติมสำหรับปีงบประมาณ 2568 ที่เหลืออยู่ประมาณ 4 เดือน

เธอเสนอว่า รัฐบาลควรพิจารณานำงบประมาณจาก “งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น” ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้อนุมัติไว้กว่า 96,000 ล้านบาท และจากการตรวจสอบข้อมูล มติคณะรัฐมนตรีพบว่า เพิ่งมีการใช้งบประมาณในส่วนนี้ไปเพียงประมาณ 30,000 ล้านบาท ยังคงเหลืองบประมาณอีกกว่า 66,000 ล้านบาท

น.ส.ศิริกัญญา ชี้ว่า หากรัฐบาลสามารถนำงบกลางที่เหลือจำนวน 66,000 ล้านบาทเศษ มารวมกับงบประมาณ 1.57 แสนล้านบาทที่ปรับมาจากการชะลอโครงการดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบาลจะมีวงเงินรวมสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2568 เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 223,000 ล้านบาท หรือประมาณ 2.2 แสนล้านบาท

พร้อมกันนี้ น.ส.ศิริกัญญา ยังได้แสดงความหวังว่า รายละเอียดแผนการใช้งบประมาณ 1.57 แสนล้านบาทที่ปรับเปลี่ยนมานี้ จะมีการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ซ้ำรอยกับแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ออกเป็นพระราชกำหนดเงินกู้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งถูกมองว่ามีการใช้จ่ายแบบ “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ”

สำหรับการหางบประมาณสำหรับปีงบประมาณ 2569 น.ส.ศิริกัญญา ระบุว่า ต้องรอติดตามการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ในวาระที่ 1 ซึ่งมีกำหนดระหว่างวันที่ 28-31 พฤษภาคมนี้