แอตแลนตา, สหรัฐอเมริกา – กลายเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตกใจและถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์ เมื่อมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นภาพผู้โดยสารจำนวนหนึ่งบนเที่ยวบินของสายการบินเดลต้า แอร์ ไลน์ กำลังช่วยกันจับยึดแผงเพดานของเครื่องบินที่เกิดการชำรุดและกำลังจะหล่นลงมาระหว่างการเดินทาง

เหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 14 เมษายน 2568 บนเที่ยวบินจากเมืองแอตแลนตา มุ่งหน้าสู่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา ขณะที่เครื่องบินกำลังบินอยู่ที่ความสูงประมาณ 30,000 ฟุต หรือเกือบ 10,000 เมตร เหนือพื้นดิน จู่ๆ แผงเพดานเหนือที่นั่งผู้โดยสารบางส่วนก็เกิดหลุดร่วงลงมา สร้างความแตกตื่นให้กับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์

ผู้ใช้งานติ๊กต็อกชื่อ @lucasmpayne ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมระบุว่าเพื่อนของเขาเป็นผู้ที่อยู่ในเที่ยวบินลำนั้น และถ่ายคลิปนี้ไว้ได้ ซึ่งคลิปดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว มียอดผู้เข้าชมแล้วกว่า 200,000 ครั้ง แสดงให้เห็นภาพผู้โดยสารชายหลายคนต้องยื่นแขนขึ้นไปเพื่อช่วยกันพยุงและรองรับแผงเพดานที่หลุดลงมา เพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหายเพิ่มเติม หรืออาจเกิดอันตรายกับผู้โดยสารคนอื่นๆ

ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ลูกเรือได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือและทำการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการใช้เทปยึดแผงเพดานเข้าที่ชั่วคราว ก่อนที่จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ผู้ใช้งานติ๊กต็อกรายเดิมยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว เครื่องบินได้เดินทางกลับไปยังสนามบินต้นทางที่แอตแลนตา และผู้โดยสารต้องรออยู่หลายชั่วโมงเพื่อขึ้นเครื่องบินลำใหม่เพื่อเดินทางต่อไปยังชิคาโก

ด้านตัวแทนของสายการบินเดลต้า แอร์ ไลน์ (Delta Air Lines) ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ โดยแสดงความขอบคุณอย่างสูงต่อผู้โดยสารทุกท่านสำหรับความอดทนและความร่วมมือที่ให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว

“เราต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งสำหรับความล่าช้าและความไม่สะดวกในการเดินทางที่เกิดขึ้นกับผู้โดยสารทุกท่าน” ตัวแทนสายการบินกล่าว พร้อมเสริมว่า “แผงเพดานที่ชำรุดบนเครื่องบินโบอิ้ง 717 ลำดังกล่าว ได้รับการซ่อมแซมและติดตั้งเข้าที่อย่างถาวรเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะที่ผู้โดยสารต้องเข้ามาช่วยเหลือพยุงแผงเพดานระหว่างเที่ยวบินอีกต่อไป”

สายการบินยืนยันว่าไม่มีผู้โดยสารหรือลูกเรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด แม้ว่าจะส่งผลให้การเดินทางล่าช้าออกไปประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อจัดการกับสถานการณ์และเปลี่ยนเครื่องบินสำหรับผู้โดยสาร

เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบและบำรุงรักษาความปลอดภัยของเครื่องบินอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงความมีน้ำใจและช่วยเหลือซึ่งกันและกันของผู้โดยสารในสถานการณ์คับขัน